จ.ตราด ประชุมเพื่อรวบรวมปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ภาคเอกชน ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนการค้า

จ.ตราด/เวลา 14.00 น.วันที่ 25 มิ.ย. 2568 นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานการประชุมปรึกษาหารือผลกระทบจากมาตรการควบคุมจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนการค้าของจังหวัดตราด ซึ่งสำนักงานจังหวัดตราดโดยกลุ่มอำนวยการจัดขึ้น มีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอชายแดนที่กับกัมพูชา รวมทั้งภาคเอกชนจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด สมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดนจังหวัด เข้าร่วมที่ห้องประชุมตราดสีทอง ศาลากลางจังหวัดตราด 

นายนิโรจน์ วัติรางกูร ตัวแทนด่านศุลกากรคลองใหญ่ ระบุว่าจากการปิดด่าน ทำให้มูลค่าการค้า ด้านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กหายไปประมาณวันละ 80 ล้านบาท โดยสินค้าที่ตกค้างจากกัมพูชาไม่สามารถนำเข้ามาในไทยได้ อาทิ สายไฟสำเร็จรูปสำหรับอุตสาหกรรมการประกอบรถยนต์ ของไทย ที่หากมีการปิดด่านระยะยาวอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการประกอบรถยนต์ได้ อย่างไรก็ตามทางด่านศุลกากรคลองใหญ่ได้ดำเนินการชี้แจงเรื่องการปิดด่านต่อผู้ประกบการค้าชายแดนไปแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็เข้าใจถึงสถานการณ์ 

นอกจากนี้นายวินัย ขยันยิ่ง เกษตรจังหวัดตราด ระบุว่า จากการปิดด่านไม่ส่งผลกระทบต่อปัญหาผลไม้ของจังหวัดตราดมากนัก เนื่องจากช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายฤดูการผลิตผลไม้แล้ว โดยมีผลผลิตผลไม้ทั้ง 4 ชนิดออกสู่ตลาดแล้วกว่าร้อยละ 90 

ด้านนางวรัญญา ถนอมพันธ์ พาณิชย์จังหวัดตราด ระบุว่า การขนส่งผลไม้จากจังหวัดตราดไปยังต่างประเทศ ผ่านกัมพูชามีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่ขนส่งจากจังหวัดตราดไปยังจังหวัดนครพนมเข้าสู่ประเทศลาว เวียดนาม สู่ปลายทางประเทศจีน นอกจากนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราดยังได้ประสานงานการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ภายใต้การสนับสนุนเงินกู้ จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank)อีกด้วย รวมทั้งยังได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตราด อีกด้วย 

สำหรับการประชุมปรึกษาหารือผลกระทบจากมาตรการควบคุมจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนการค้าของจังหวัดตราด ในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อทางจังหวัดตราดจะได้รวบรมข้อมูลปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่พื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนการค้า รวมทั้งเป็นการรับฟังแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอต่อศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา กระทรวงมหาดไทย และศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เพื่อกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้ผลกระทบในภาพรวมต่อไป