ชาวบ้านหมู่ 6 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ร้องเรียนกรณี ผู้ใหญ่บ้าน (ปัจจุบันได้รับแต่งตั้งเป็นกำนัน) บริหารจัดการผลผลิตปาล์มน้ำมันบนที่ดินสาธารณะของหมู่บ้านรวม 47 ไร่ เป็นเวลานานกว่า 7 ปี แต่ไม่เคยชี้แจงรายรับ-รายจ่ายใด ๆ จนคาดว่ามีเงินจากการขายผลปาล์มสูญหายกว่า 2.5 ล้านบาท

ปัญหาดังกล่าวเริ่มเปิดเผยหลังระบบประปาหมู่บ้านชำรุด ชาวบ้านต้องการเบิกเงินซ่อมแซม แต่กลับถูกแจ้งว่าไม่มีเงิน ทำให้เริ่มมีการทวงถามถึงรายได้จากการขายผลปาล์มน้ำมันที่เก็บเกี่ยวทุกเดือน ซึ่งเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือน หรือราวปีละ 360,000 บาท รวมตลอด 7 ปี คาดว่าเป็นเงินกว่า 2,520,000 บาท แต่ไม่เคยได้รับการชี้แจงชัดเจน

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ พบ นายธีรยุทธ อายุ 48 ปี ชาวบ้านผู้ติดตามเรื่องนี้ พร้อม นายอรุณ อายุ 60 ปี และ นายพรณรงค์ อายุ 46 ปี พาไปชี้พื้นที่สวนปาล์มบนที่สาธารณะ ซึ่งมี 2 แปลงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้จริง แปลงแรก 32 ไร่ มีต้นปาล์ม 570 ต้น และแปลงที่สอง 15 ไร่ มีต้นปาล์ม 300 ต้น ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 10 ตันต่อรอบ ส่วนที่เหลืออีก 2 แปลง เป็นปาล์มเล็กที่ยังไม่มีผลผลิต โดยที่ดินสาธารณะของหมู่บ้านรวมทั้งหมด 73 ไร่

ชาวบ้านระบุว่า ตลอด 7 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ดูแลและเก็บเกี่ยวผลผลิตแต่เพียงผู้เดียว ไม่เคยเปิดบัญชี ไม่เคยแจ้งรายได้หรือรายจ่าย ทั้งที่เป็นทรัพย์สินสาธารณะของหมู่บ้าน แม้จะทวงถามหลายครั้ง ทั้งในที่ประชุมประจำเดือนหรือผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่มีคำตอบใด ๆ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ตัวแทนชาวบ้านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ สำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดชุมพร และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านคนเดิมเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นกำนันเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ยิ่งสร้างความสงสัยให้กับชาวบ้าน

ในที่ประชุมหมู่บ้านเมื่อบ่ายวันเดียวกัน ชาวบ้านหวังจะได้รับคำชี้แจง แต่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่า กำนันติดภารกิจ ไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ จึงต้องเลื่อนการสอบถามไปเดือนหน้า ทำให้ชาวบ้านรู้สึกผิดหวัง

ด้าน นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ เปิดเผยว่า อำเภอได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว และได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย