วันที่ 9 ก.ค.68 นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 (สนง.ปปส.ภ.4) พลตรียุทธภูมิ บุญฤทธิ์ รองเจ้ากรมกิจการชายแดน กรมกิจการชายแดนทหาร, นางสาววรรณา ผู้อุตส่าห์ นายด่านศุลกากรหนองคายรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรหนองคาย, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส รองผบก.ภ.จว.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปส., ตำรวจ, ทหาร, ศุลกากร, ฝ่ายปกครอง, ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันประชุมชี้แจงสถานประกอบการขนส่งโลจิสติกส์ไทย – ลาว และร่วมกันตรวจสอบสถานประกอบการขนส่งในพื้นที่ จ.หนองคาย ซึ่งมีการนำเครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่แบบพกพา และรถโมบายเอกซเรย์เคลื่อนที่ของศุลกากรหนองคาย ออกตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ พัสดุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีผู้จัดส่งสินค้าทั้งภายในประเททศและต่างประเทศ

นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผอ.สนง.ปปส.ภ.4 กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ออกประกาศให้สถานที่เก็บสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ซึ่งผู้ประกอบการขนส่งใช้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ เป็น 1 ใน 7 สถานประกอบการที่อยู่ภายใต้บังคับของมาตรการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ดังนั้นสถานประกอบกิจการขนส่งโลจิสติกส์ทุกแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดนจะต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ที่กำหนด เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบผู้ลักลอบกระทำความผิดที่แท้จริง หากมีการนำส่งพัสดุภัณฑ์ที่ซุกซ่อนยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ จะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อขยายผลการจับกุม ที่ผ่านมาพื้นที่รับผิดชอบของ ปปส.ภาค 4 มี 5 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย เลย,หนองคาย,บึงกาฬ,นครพนม และมุกดาหาร 

ซึ่ง จ.หนองคาย ที่ผ่านมาพบว่ามีช่องทางในการลักลอบขนส่งสินค้าซุกซ่อนยาเสพติด ผู้ประกอบการขนส่งได้ประสานงานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ทราบ นำมาสู่การตรวจสอบกล่องพัสดุต้องสงสัยและขยายผลการจับกุม มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ต่อยอดงานได้ ดังนั้นในการดำเนินการครั้งนี้ทั้งการประชุมชี้แจงผู้ประกอบการ และการตรวจสอบสถานประกอบการ ล้วนต้องการให้ผู้ประกอบการเชื่อมโยงข้อมูล ประชาสัมพันธ์ให้กับลูกค้าที่ใช้บริการขนส่ง ไม่ทำผิดกฎหมาย สถานประกอบการมีป้ายติดแจ้งเตือนชัดเจน มีกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ ชื่อผู้ส่ง ผู้รับ ต้องชัดเจน หากสถานประกอบการขนส่งโลจิสติกส์ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ก็จะมีการพูดคุยกันในรายละเอียด และบูรณาการการทำงานร่วมกันมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องประสานความร่วมมือกับภาคการขนส่งของ สปป.ลาว ด้วย แม้ว่าระเบียบปฏิบัติจะมีผลบังคับใช้เฉพาะในราชอาณาจักรไทยเท่านั้น แต่หากสองประเทศ ไทย – ลาว ให้ความร่วมมือกัน ป้องกันปราบปรามยาเสพติดในแนวทางเดียวกันก็จะช่วยลดปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ.