จ.ตราด/ (10 กรกฎาคม 2568) จากกรณีข่าวฉาวพระชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้องสีกา ทำให้ประชาชนมีวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนชาวตราด ในเรื่องนี้

โดยนายรำไพ สวัสดิ์จันทร์ อายุ 58 ปี เปิดเผยว่า พระสงฆ์ที่มีข่าวฉาวส่วนใหญ่เป็นพระระดับผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ที่ควรจะละเว้นอบายมุขและรักษาศีลอย่างเคร่งครัด คนที่จะบวชควรต้องละเว้นอบายมุขให้หมด โดยเฉพาะระดับเจ้าอาวาส หรือพระชั้นเจ้าคุณ ยิ่งควรต้องรักษาศีล มีธรรม ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องกิเลสหรือราคะตัณหา ส่วนหนึ่งปัญหามาจากชาวบ้านนิยมใส่ซองทำบุญ ทำให้พระบางรูปมีเงินทองและมีผู้หญิงบางกลุ่มเข้ามาหาผลประโยชน์ ถ้าใจยังไม่ตัดกิเลส ยังไม่พร้อมจริง ๆ ก็ไม่ควรมาบวชให้เสื่อมพระศาสนาเลย

นายรำไพ ยังกล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหานั้น ต้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนา เข้ามาดูแลอย่างเข้มงวด ตรวจสอบรายได้และทรัพย์สินของวัดอย่างโปร่งใส ต้องตรวจสอบอย่างจริงจัง ตรวจสอบว่า แต่ละวัดมีเงินมาจากไหน พระมีทรัพย์สินอะไรบ้าง ซึ่งส่วนตัว ยังเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์สายวัดป่าที่ดำรงตนอย่างสมถะ พระดี ๆ ยังมีเยอะ โดยเฉพาะพระสายวัดป่า พระที่อยู่แบบสมถะ ไม่เน้นวัตถุภายนอก พระแบบนี้แหละที่ยังรักษาศาสนาไว้ได้

นายรำไพ แนะนำว่า ให้พิจารณาเลือกวัดที่จะทำบุญ โดยดูวัดนั้น เน้นความเจริญทางวัตถุมากเกินไปหรือไม่ และพระสงฆ์มีความเจริญทางจิตใจหรือไม่ และหากไม่มั่นใจ สามารถเลือกทำบุญในรูปแบบอื่น เช่น ช่วยเหลือเด็กกำพร้า ผู้พิการ หรือผู้ยากไร้

ด้าน นางลำใย รัตนพิทักษ์ อายุ 58 ปี บอกว่า ตอนนี้ไม่น่าเคารพนับถือพระที่กำลังเป็นข่าวแบบนี้ ซึ่งแต่ละรูปเป็นระดับพระอาจารย์ทั้งนั้น ชาวบ้านเองก็ไม่สมควรไปนับถืออีกต่อไปแล้ว ควรถอยห่างจากเจ้าอาวาสที่มีปัญหา วันนี้ไม่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เพราะพฤติกรรมของบางรูปมันดูไม่สมควร ไม่เชื่อถือ เดี๋ยวนี้ศาสนาก็เลยเสื่อมไปหมด

นางลำใย กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและตรวจสอบทุกวัดอย่างจริงจัง ซึ่งตอนนี้ไม่ค่อยอยากไปทำบุญทำเท่าไรนัก แต่หากจะไปจริง ๆ ก็จะไปวัดที่เคารพนับถือจริง ๆ เท่านั้น ถ้าไม่รู้สึกเชื่อถือ ก็ไม่ค่อยอยากไปเหมือนกัน

ขณะที่นางวรรณี บรรจงการ อายุ 72 ปี ให้ความเห็นถึงพระสงฆ์ที่ตกเป็นข่าวฉาวว่า ทุกวันนี้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลย พระหลายรูปที่เป็นข่าวก็เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ทั้งนั้น พระเหล่านี้มีเงินทองมาก และสีกาบางคน ตั้งใจเข้ามาหลอกลวงเพื่อผลประโยชน์ ข่าวที่ปรากฏทางสื่อทำให้ความศรัทธาน้อยลง ก็ยังมีอยู่บ้างนะ อย่างพระแถวบ้านเรา เราก็ยังศรัทธาอยู่ แต่พอเห็นข่าวจากที่อื่นโดยเฉพาะออกทีวี ก็รู้สึกไม่มั่นใจ

นางวรรณี บอกว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลตรวจสอบวัด โดยเฉพาะวัดที่ร่ำรวย เพื่อป้องกันไม่ให้คนหลอกลวงเข้ามาแฝงตัวได้ เพราะพระสงฆ์ในปัจจุบัน ใจอ่อนและถูกสิ่งแวดล้อมยั่วยวนได้ง่าย ต่างจากพระสงฆ์ในสมัยก่อนที่มีวินัยเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม ตนเองก็ยังใช้ชีวิตตามปกติและยังคงทำบุญกับวัดประจำ เพราะเชื่อว่าไม่ได้เหมารวมว่าพระสงฆ์ทั้งหมดไม่ดี