วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 19:56 น.

ภูมิภาค

ยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือ! นทท.ยังแน่นงานแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลฯวันที่สอง

วันศุกร์ ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 16.54 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 11 ก.ค.68 เป็นวันที่สองของการแห่ขบวนต้นเทียนพรรษาของจังหวัดอุบลราชธานี โดยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศยังคงปักหลักเที่ยวชมงานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2568  ภายใต้ชื่องาน “124 ปี งานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2568 วิจิตร ศรีศิลป์ ถิ่นไทยดี” กันอย่างเหนียวแน่นและคึกคัก  ถึงแม้วันนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงเล็กน้อยจากเมื่อวานที่มีนับแสนคน แต่ก็ยังเหลือหลายหมื่นคน ทำให้บรรยากาศความสุนกสนานครึกครื้นไม่แพ้วันแห่เทียนวันแรก ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวาน(10ก.ค.68)
              
โดยในวันที่ 11 ก.ค.68  ขบวนแห่เทียนได้เริ่มขึ้น ในเวลา 08.29 น. หลังพิธีเปิดที่ บริเวณปะรำพิธี หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม ถนนอุปราช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีลำดับจัดขบวนแห่ เริ่มจากป้ายงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ต่อด้วยขบวนเทียนพรรษาพระราชทานและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน และตามมาด้วย ชุดการแสดง “อุบลราชธานีน้อมภักดี จักรีสยาม”  แสดงโดยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จากนั้น ก็ต่อด้วยขบวนแห่เทียนและขบวนฟ้อนรำ  ขบวนการแสดงจากคุ้มวัดและชุมชนต่างๆที่ส่งต้นเทียนเข้าร่วมงานในครั้งนี้ และยังมี “ขบวนเรือพนมพระ” จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เดินทางมาเข้าร่วมขบวนด้วย สะท้อนถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างภาคใต้กับภาคอีสาน ซึ่งร่วมกิจกรรมกันมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คำกล่าวที่ว่า เข้าพรรษาที่อุบล ออกพรรษาที่สุราษฎร์ธานี
              
สำหรับการแห่ต้นเทียน  การแสดงชุดต่างๆ จะเหมือนกับที่แห่และแสดงไปเมื่อวาน ( 10 ก.ค.68 ) ทุกอย่าง รวมทั้งเส้นทางในการแห่ก็เป็นเส้นทางเดิม คือ จากถนนอุปราช ในเมืองอุบลราชธานี บริเวณหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม ถนนอุปราช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ไปสิ้นสุดที่ สี่แยกปั๊มบางจาก (เอสโซ่เดิม) ภนนชยางกูร ในเมืองอุบลราชธานี โดยจะมีจุดขบวนฟ้อนรำทำการแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชม 4 จุด ได้แก่ 1.หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม (บริเวณปะรำพิธีเปิดงาน) ถ.อุปราช ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลฯ 2.ลานขวัญเมือง(หน้าศาลากลางหลังเก่า) 3.หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอุบลราชธานี  4.หน้าปั๊มน้ำมันบางจาก(เอสโซ่เดิม) ถ.ชยางกูร ในเมืองอุบลราชธานี โดยมีนักท่องเที่ยวรอเฝ้าชมต้นเทียนและขบวนฟ้อนรำ ยาวเหยียดเต็มสองฝั่งถนนตลอดเส้นทางที่ขบวนแห่เทียนผ่าน ตั้งแต่เวลา 0800 น. – 13.00 น.
              
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า  นอกจากการแห่เทียนพรรษาในภาคกลางวันแล้ว  ยังมีการแห่เทียนภาคกลางคืนด้วย แต่จะแห่และทำการแสดงเพียง 2 จุด คือ หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม และ ลานขวัญเมือง(หน้าศาลากลางหลังเก่า)  และจะมีการจัดแสดงแสง สี เสียง ประกอบขบวนแห่เทียนพรรษาภาคกลางคืน ภายใต้ชื่อชุดการแสดง “ราชธานี ศรีศิลป์ ถิ่นไทยดี” ที่ บริเวณหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม ถนนอุปราช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี อีกด้วย
              
สำหรับการแสดงแสงเสียงประกอบขบวนแห่เทียนพรรษาในครั้งนี้ มีทั้งหมด 14 ชุดการแสดง อาทิ ชุด “ฮุ่งแสง แญงธรรม”, “มหัศจรรย์ศรัทธาเรืองแสง”, “แตกบ้าน”, “ผู้ใหญ่ลี”, “เซิ้งกะลอ”, และ “บูชา 9 จอมกษัตริย์นาคา” เป็นต้น โดยมีการนำเสนอผ่านแสง สี เสียง และขบวนการแสดงอย่างตระการตา และมีการนำเสนอเรื่องราวทางพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ตลอดจนประวัติความเป็นมาของประเพณีชาวอีสานที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ต่อไป
             
ทั้งนี้ การแสดงแสง สี เสียง ในภาคกลางคืนนี้ ได้มีการนำเอาต้นเทียนมาแสดงประกอบแสง เสียง เพียง 8 ต้น โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทแกะสลัก ประเภทติดพิมพ์ และเทียนโบราณ  ซึ่งงานแสดงแสง สี เสียงนี้ จะเริ่มใน เวลา 19.30 น. ณ บริเวณหน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม ถนนอุปราช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นักท่องเที่ยวโปรดอย่าลืมและอย่าพลาดชม!
 

หน้าแรก » ภูมิภาค