กรณีนายสมนึก ศรีนันทา หรือตานึก อายุ 72 ปี ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ถูกชายคลั่งใช้อาวุธมีดปอกผลไม้ จ้วงแทงที่ชายโครงซ้าย และปลายมีดไปถูกตับ มีเลือดออกในช่องท้องจนเสียชีวิต เกิดเหตุในรถบัสโดยสารประจำทาง สายบ้านแพง-นครพนม ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านปากทวย หมู่ 5 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลเวินพระบาท ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ถนนชยางกูร) เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 กรกฎาคม 68 โดยผู้ต้องหาเป็นชายอายุราว 45-55 ปี ยังให้การจับต้นชนปลายไม่ถูก คล้ายเป็นบุคลควิกลจริต ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
    
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 32 หมู่ 7 บ้านนาพระชัย ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพตานึกชายชราผู้โชคร้าย โดยมีญาติและเพื่อนบ้านต่างมาแสดงความเสียใจในครั้งนี้กับ นางสีมอญ ศรีนันทา อายุ 70 ปี ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ซึ่งยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียสามี โดยมิได้ร่ำลากันแม้แต่คำเดียว พร้อมกับเปิดเผยว่าอยู่กินกับตานึกมาเป็นเวลาถึง 50 ปี มีบุตรด้วยกันรวม 4 คน เป็นชาย 3 หญิง 1 อาชีพเป็นเกษตรกรทำนาทำไร่
    
เช้าวันเกิดเหตุตนได้หุงข้าว นึ่งปลาที่ไปตกสะดุ้ง(ยกยอ)มาได้ จัดสำรับให้สามีกิน พร้อมกับบอกว่าวันนี้ว่างก็ไปเอายาที่คลินิกมากินสิ เพราะแกป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบแต่ไม่ถึงกับรุนแรง ไปไหนมาไหนได้สะดวกอยู่ หลังกินข้าวเสร็จตานึกก็แต่งตัวเดินออกจากบ้าน ข้ามถนนไปนั่งรอรถโดยสารที่ตู้ยามตำรวจ ไม่คิดเลยว่านั่นจะเป็นภาพการเดินออกจากบ้านของสามี ในสภาพยังมีลมหายใจอยู่เป็นครั้งสุดท้าย กระทั่งเวลาประมาณ 10.30 น. ตนจึงโทรศัพท์เข้ามือถือสามี เพื่อจะสอบถามด้วยความห่วงใย ว่า “ถึงนครพนมแล้วหรือยัง” แต่คนที่รับสายไม่ใช่เสียงสามี พร้อมพูดตอบกลับมาว่าเกิดอุบัติเหตุแล้ว เจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ถูกคนแทงเสียชีวิตแล้ว ตนถึงกับมือเท้าอ่อนรีบเรียกลูกช่วยพาไปที่เกิดเหตุ พบร่างสามีที่ รพ.ท่าอุเทนในสภาพสิ้นลมหายใจแล้ว ทั้งนี้การจากไปไม่มีลางสังหรณ์ หรือฝันร้ายแต่อย่างใด จึงขอนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน หลังที่สามีเป็นคนปลูกสร้างเอง
    
ด้าน นายสาคร ศรีนันทา อายุ 53 ปี ลูกชายคนโตของตานึก เล่าทั้งน้ำตาว่าพอรู้ข่าวพ่อถูกแทงเสียชีวิต รู้สึกช็อกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยไม่มีใครได้ทันตั้งตัว รีบขับรถยนต์ไปดูยังที่เกิดเหตุ เห็นมือมีดนั่งอยู่บนรถของตำรวจ แต่ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปใกล้ ถ้าหากมีโอกาสได้เจอหน้า อยากจะถามคำแรกว่าทำพ่อผมทำไม ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักกันมาก่อน และได้บอกพ่อให้ไปสู่สุคติตนจะดูแลแม่ให้เป็นอย่างดี ไม่ต้องห่วงใยอะไรทั้งสิ้น ขอให้พ่อไปเป็นเทวดาอยู่บนสรวงสวรรค์ ส่วนศพจะฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 13 กค.นี้