วันที่ 11 ก.ค.68  พ.ต.ท.นิพนธ์  ศรนรินทร์ สารวัตรเวรสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถปิกอัพชนกับรถปิกอัพมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่บริเวณถนนสาย ราชบุรี-พิกุลทอง. หมู่ 6  ต.พิกุลทอง  อ.เมือง  จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลราชบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี 

ในที่เกิดพบรถกู้ชีพของอบต.พิกุลทอง กำลังนำคนเจ็บจำนวน 3 คนประกอบด้วยชาย 1 หญิง 2 ส่งโรงพยาบาลราชบุรี นอกจากนี้ยังพบรถปิกอัพยี่ห้อ นิสสันสีแดง หมายเลขทะเบียน บจ-9103 ราชบุรี สภาพหน้ารถด้านขวามีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนจนแก้มยุบ ล้อรถหลุด ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมค สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ตน-3054 กรุงเทพ จอดขวางถนนสภาพพังยับเยินเศษตัวรถและพืชผักที่บรรทุกมากระจายเกลื่อนถนน ทำให้การจราจรติดขัดเป็นระยะทางยาว พลเมืองดีต้องช่วยกันเก็บกวาดเศษผักและเศษรถ ออกจากพื้นผิวถนนเพื่อเปิดการจราจร ส่วนในรถพบผู้เสียชีวิตติดอยู่ในซากรถ 1 คน  เจ้าหน้าที่ต้องนำเครื่องตัดถ่างมาช่วยงัดเพื่อนำผู้เสียชีวิตออกมา ทราบชื่อต่อมาคือนายหมุ่ยเล้ง อายุ 65 ปี ต.ยกกระบัตร  อ.บ้านแพ้ว  จ.สมุทรสาคร  ส่วนผู้บาดเจ็บที่มากับรถปิกอัพสีบรอนซ์ทราบว่าเป็นลูกสาวของผู้เสียชีวิต  ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชบุรี  ซึ่งมีญาติของผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตกลับมาจากไปซื้อผักในตลาดแห่งหนึ่งในตัวเมืองราชบุรี เพื่อจะนำไปขายในตลาดนัดในอ.บ้านแพ้ว  จ.สมุทรสาคร  แต่ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน
    
จากการสอบถามนายหนุ่ม(นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเดินทางมากับรถปิกอัพสีแดง ก็บอกว่าคนเจ็บ 2 คนชายกับหญิงเป็นพ่อและแม่ของตนเอง ส่วนผู้หญิงอีกคนที่เจ็บนั้นมากับรถปิกอัพ สีบรอนซ์  ซึ่งครอบครัวของตนกำลังจะไปฉีดยาในสวนฝรั่งใกล้กับจุดเกิดเหตุโดยพ่อได้เปิดไฟเลี้ยวขวาจะเลี้ยวเข้าสวนโดยจอดรอจนมีรถแซงขึ้นมา 2 คันไปแล้วจึงได้หักหัวรถจะข้ามถนนจังหวะนั้นได้มีรถปิกอัพสีบรอนซ์ แซงขึ้นมาอย่างเร็วจึงทำให้ชนกับหน้ารถของตนด้านขวาอย่างจัง จนทำให้รถปิกอัพสีบรอนซ์เสียหลักหมุนไปฟาดกับต้นไม้ข้างทางจนทำให้พืชผักที่บรรทุกมาเต็มรถกระเด็นไปตกเกลื่อนถนน
    
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งเพราะในบริเวณจุดเกิดเหตุนั้นสองข้างทางเป็นสวนผักและมะพร้าว  ทำให้ไม่มีวงจรปิดที่จะสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้