เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านหนองมะแซว หมู่ 11 ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ ว่าเกิดเหตุทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืนผู้หญิง บริเวณป่ายูคาลิปตัส ข้างถนนสายบ้านตรวจ-บ้านเตาแดก ในพื้นที่หมู่ 11 ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุ นายเฉลิมพล แสงสว่าง นายอำเภอศรีณรงค์ ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีณรงค์ ลงพื้นที่ติดตามคนร้าย ซึ่งขณะนี้ทราบเบาะแสแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้เสียหาย คือ พยาบาลของโรงพยาบาลศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ให้การว่า เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนกำลังนั่งถอนหญ้าอยู่ในสวนโคกหนองนา ได้มีชายอายุราว 30-40 ปี รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง สูงประมาณ 160 ซม. สวมเสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงขายาว เดินย่องเข้ามาทางด้านหลัง จากนั้นใช้แขนโอบลำตัว และใช้มีดจี้ที่คอ ก่อนลากตนข้ามถนนไปยังพงหญ้าฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นที่ลับตาคน

ผู้เสียหายเล่าว่า ตนพยายามขัดขืน ทำให้ชายคนดังกล่าวกดเธอลงกับพื้น และชกต่อยที่ใบหน้า คอ และลำตัว รวมทั้งกระทืบซ้ำหลายครั้ง ระหว่างนั้นผู้เสียหายถามคนร้ายว่าต้องการอะไร แต่ชายคนดังกล่าวตอบเพียงว่า “ไม่ได้ต้องการอะไร ให้เงียบๆ” ผู้เสียหายจึงฮึดสู้ ร้องเรียกให้คนช่วย โชคดีที่มีรถจักรยานยนต์ขับผ่านบริเวณนั้นพอดี ทำให้คนร้ายผลักผู้เสียหายลงกับพื้นก่อนวิ่งหลบหนีไปทางทุ่งนา ซึ่งเป็นป่าหญ้าอยู่ทางทิศตะวันตกของถนน

ภายหลังเหตุการณ์ ผู้เสียหายหนีไปซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมกลางทุ่งนาเพื่อความปลอดภัย สักพักจึงเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีณรงค์ และเข้าแจ้งความที่ สภ.ศรีณรงค์ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางหลบหนี และติดตามเบาะแสผู้ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

ด้าน นายสุรเชษฐ์ ไชยราช อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองมะแซว เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นและหวาดกลัว จึงอยากเตือนประชาชนที่ต้องไปทำไร่ ทำนาคนเดียวให้เพิ่มความระมัดระวัง เบื้องต้นได้วางแผนจะติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ และประกาศเสียงตามสาย ให้ช่วยถ่ายภาพหากพบคนแปลกหน้า หรือรถต้องสงสัยเข้ามาในพื้นที่

ชาวบ้านต่างสาปแช่งคนร้าย และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว ขณะนี้ชาวบ้านหลายคนยังไม่กล้าออกไปทำงานในไร่นาตามลำพัง