เมื่อเวลา 11.40 น.วันที่ 12 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานาก จ.ปราจีนบุรี พบโพสต์ในYouTube โดยผู้ใช้ชื่อ ผอ.กัน ประจันตคาม Kanpichet Maliket ( นายกันพิเชษฐ์ มลิเกตุ ) ได้โพสต์เพลง ที่แต่งเอง – ร้องเอง ชื่อเพลง “เพลงนารีพิฆาต” (https://youtu.be/un4k_n2fAa8?si=ovH-tjKlU25F7bj5) 

เนื้อหาใน บทเพลงกล่าวเล่าสรุปความ.... ถึงมือถือเพียงเครื่องเดียว แต่ว่าสะเทือนพระศาสนาในเรื่องมัวหมองของ พระ กับ สีกา จนสะเทือนวงการผ้าเหลืองไทย โดยสีกากอล์ฟที่กำลังโด่งดังผ่านสื่อมวลชนขณะนี้  หรือฉายาที่เรียกกัน  นารีพิฆาต   ที่ “นารี”ดังกล่าวได้ใช้มือถือบันทึกกิจกรรม “ลับ” ไว้ระหว่างเธอกับพระสงฆ์ แล้วได้ข่มขู่เรียกเงินมากมาย  สีกาทำมุ่งหวังเงินตรา วอนให้สำนักงานพระพุทธศาสนาตั้งกติกาให้ทีระหว่าสตรีกับพระสงฆ์  ในการกระทำนี้หากปรบมือข้างเดียวคงไม่ดัง พระพังเพราะสตรี ที่ยังปล่อยกิเลศครอบงำ สตรีเหมือนซาตาน ...  

หลังฟังเพลงแล้วผู้สื่อข่าวได้รีบลงพื้นที่พบกับนายกันพิเชษฐ์ มลิเกตุ อายุ 62 ปี นักแต่งเพลงชาว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี อดีตผู้อำนวยการสถานศึกษาถึงที่บ้านพักพร้อมกับขอให้ร้องเพลงดังกล่าวสด ๆ 

นายกันพิเชษฐ์ กล่าวว่า จากกรณีจากที่ได้ฟังข่าวกรณี “สีกา กอล์ฟ”  จึงได้แต่งเพลงสะท้อนขึ้นมา แล้วเพิ่งลงยูทูปไป  จนทำให้น้องนักข่าวได้ติดตามสัมภาษณ์ทำไมถึงแต่งเพลงนี้ ในฐานะที่เรา เป็นนักแต่งเพลงอิสระสะท้อนสังคม  แต่งเพลงชมเชยยกย่องคนดีใครทำดี   หากทำไม่ดี เราก็ แต่งเพลงสะท้อนแล้วให้ความรู้ให้ความเข้าใจ  จึงได้เกิด “เพลงนารีพิฆาต” ขึ้น 

ในท่อนแรกได้เขียนไว้  โทรศัพท์เครื่องเดียวในยุคปัจจุบันนี้ สามารถที่จะทำประโยชน์ ทำอะไรได้มากมาย  คนที่ไม่มีความรู้  ก็สามารถที่จะหาความรู้ที่โทรศัพท์เครื่องนี้ในทางที่เป็นคุณ  แต่กับในทางที่เป็นโทษนั้น  กับคนไม่หวังดี กับฝ่ายตรงข้าม ก็จะได้ทำการบันทึกข้อความ บันทึกภาพ บันทึกเสียง  ในสิ่งที่ตนเองจะได้เปรียบในภายหลัง  เช่น  กรณีสีกากอล์ฟ  ที่กระทำกับพระคุณเจ้าในหลายรูป  จนทำให้เป็นข่าวโด่งดังที่ทำนั้นกับพระสงฆ์ที่ล้วนมีสมณศักดิ์ทั้งนั้นเลย   “นารี”  ถ้าหากพูดถึงความรักดูจะหวานชื่น  ส่วน “นารีพิฆาต”  เมื่อใด  ละก็ความอ่อนหวานก็จะมีความโหดร้ายแฝงอยู่ เช่นสีกากอล์ฟ

ย้อนไปยังคู่กรณี  คือพระคุณเจ้าที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาตลอด ค่อนชีวิต   แต่ว่ามาหลงเสน่ห์มารยาหญิงร้อยเล่มเกวียน  เพื่อหวังที่จะได้เงินได้ทองจากพระคุณเจ้าแบบง่ายๆ   คงดูมาแล้วว่าไม่มีข้อกฎหมายใดที่จะเอาผิดกับเธอได้  ส่วนพระคุณเจ้านั้น ทั้งที่รู้ว่ายังไงก็ต้องผิดพระธรรมวินัย   ปาราชิก  4 ข้อแรกเขียนไว้คือ เสพเมถุน  ซึ่งต้องขาด จากการ เป็นพระ   ดูง่ายๆจากนวโกวาท วินัยบัญญัติ อย่างนี้เป็นต้น   

พระคุณเจ้าบางคน ก็ยินยอมที่จะสละเงินทอง ในส่วนที่ตนเองคิดว่ามี อยู่ปรนเปรอ กับผู้หญิง   แต่บางรูป ตนก็เชื่อว่าอาจจะถูกหลอก แล้วก็ตกบันไดพลอยโจน    บางรูปอาจจะ จงใจที่จะกระทำ อยู่ด้วยกันลักษณะ 2 ต่อ 2เป็นต้น   จนทำให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา   คิดว่ามันคงเป็นกรรมของแต่ละบุคคล  ที่ว่า กัมมุนา วัตตตีโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

เพราะฉะนั้นจึงฝากว่า  พระพุทธศาสนา  หรือ พระสงฆ์ ในประเทศไทยนั้น มีหลายแสนรูป  แต่ มีเพียงบางส่วนหยิบมือเดียวเท่านั้น   พุทธศาสนิกชนอย่าหลงผิด  คิดว่าพระพุทธศาสนาจะล่มสลายไม่ใช่  ต้องเข้าใจศาสนาพุทธมีคำสอนจากพระพุทธเจ้าเป็นหลักวิทยาศาสตร์ต้องแยกแยะให้ออก  เป็นเรื่องของบุคคลอลัชชีอันนี้ส่วนที่ไม่ดีก็ตัดทิ้งออกไปขอให้มาช่วยปกป้องและปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า นายกันพิเชษฐ์ กล่าวในที่สุด