เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ นายศรายุธ สีละออง ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) สังกัด ร้อย.อส.อ.เมือง ศก.3 และผู้ปกครองท้องที่ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดศรีสะเกษ (กอ.รมน.) และ ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ บุกเข้าทำการ ตรวจคัดกรองสารเสพติดจากปัสสาวะพระสงฆ์ ทุกรูป ที่สังกัดวัดแห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองศรีสะเกษ การตรวจสอบครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดของสังคมไทยที่กำลังเผชิญกับ กระแสข่าวด้านลบเกี่ยวกับพระสงฆ์ ไม่ว่าจะเป็นคดีฟอกเงิน การครอบครองทรัพย์สินผิดธรรมวินัย ไปจนถึงข่าวฉาวกับสตรีและยาเสพติด จนหลายฝ่ายเกรงว่าความศรัทธาในพระพุทธศาสนาจะสั่นคลอนอย่างรุนแรง

ภารกิจครั้งนี้ได้รับความเมตตาอย่างสูงจาก พระวชิรสิทธิธาดา เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ และผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ (มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย - มจร.) ซึ่งได้อนุญาตให้ใช้สถานที่ภายใน วิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ ตำบลน้ำคำ อำเภอเมืองศรีสะเกษ เป็นจุดดำเนินการตรวจคัดกรองอย่างเป็นทางการ โดยบรรยากาศในช่วงเวลานั้นเต็มไปด้วยความเงียบสงัดและตึงเครียด พระภิกษุแต่ละรูปทยอยเข้ารับการตรวจภายใต้สายตาของเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่ยืนสังเกตการณ์อย่างเข้มงวด ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านและศรัทธาชนในพื้นที่

ผลการตรวจปรากฏว่า “ไม่พบสารเสพติดในพระสงฆ์ทุกรูป” สร้างความโล่งใจให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่ายังมีพระสงฆ์ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ คงไว้ซึ่งศีลาจารวัตร และเป็นที่พึ่งทางใจให้พุทธศาสนิกชนได้อย่างแท้จริง

ด้านฝ่ายปกครองยังไม่วางใจ ได้ กำชับให้ผู้ปกครองท้องที่ร่วมมือกับเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ หากพบพระภิกษุมีพฤติกรรมน่าสงสัย หรือมีข้อมูลเชิงลึกจากชาวบ้าน ให้สามารถขอความร่วมมือในการตรวจสารเสพติดได้ทันที เพื่อสกัดปัญหาตั้งแต่ต้นทาง ก่อนลุกลามกลายเป็นภาพลบกระทบวงกว้าง ซึ่งภารกิจครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่ “ตรวจฉี่พระ” แต่เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า รัฐเอาจริง! ศาสนาต้องบริสุทธิ์ และพระสงฆ์ต้องพ้นจากยาเสพติด ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยต้องการแสงสว่างจากศีลธรรมอย่างที่สุด