เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ที่ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลงานการกวาดล้างอาชญากรรมในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งครอบคลุมทั้งยาเสพติด การทะเลาะวิวาท และการแข่งรถจักรยานยนต์บนถนนหลวง

ในการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้นำของกลางมาจัดแสดง ทั้งรถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ยาเสพติดประเภทยาบ้า น้ำกระท่อม รวมถึงอาวุธที่ตรวจยึดได้

พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการติดตามพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่มที่ก่อเหตุในช่วงที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน โดยสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้รวม 25 คน แบ่งเป็นเยาวชน 20 คน และผู้ใหญ่ 5 คน ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุจริง

สาเหตุของการก่อเหตุ มาจากความบาดหมางระหว่างกลุ่มวัยรุ่นทั้งสอง ที่เคยทะเลาะวิวาทกันหลายครั้ง จึงมีการตรวจยึดของกลาง ได้แก่ อาวุธมีด รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์ทำประทัดลูกบอลที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามข้อหา “ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ พกพาอาวุธในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ หรือกระทำการใดที่ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ”

นอกจากนี้ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ ระบุว่า ยังมีการกวาดล้างอาชญากรรมทางโลกออนไลน์ โดยใช้วิธีดักจับและล่อซื้อสินค้าผิดกฎหมายผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้หลายราย โดยเฉพาะน้ำกระท่อมที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มเยาวชนเป็นอย่างมาก พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสหรือหารือเกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติด ผ่านสายด่วน 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวฝ่ายปกครอง เปิดเผยว่า ปัจจุบันน้ำกระท่อมมีวางขายแพร่หลาย แต่การจับกุมยังทำได้ไม่มาก เพราะทุกครั้งที่ตรวจยึดของกลาง ต้องส่งตัวอย่างน้ำกระท่อมไปตรวจยืนยันที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึงครั้งละ 2,500 บาท หากจับกุมหลายครั้งก็จะยิ่งเพิ่มภาระให้กับพนักงานสอบสวน หากมีการปรับระเบียบ หรือเปิดช่องให้ตรวจสอบได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เชื่อว่าจำนวนคดีจับกุมจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก