เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.บีบี้ อายุ 34 ปี ชาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พนักงานห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองอุดรธานี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน หลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ นายเดฟ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ครูอัตราจ้างในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองหาน ซึ่งกำลังศึกษาในระดับปริญญาโท


น.ส.บีบี้ เล่าว่า รู้จักกับนายเดฟเมื่อราวปี 2559 ผ่านแอปพลิเคชันหนึ่ง ตอนแรกเป็นเพียงเพื่อน แต่ต่อมากลับมีความสัมพันธ์เกินเลย โดยแต่ละครั้งไม่ได้ป้องกัน และตนเองใช้วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน กระทั่งประจำเดือนขาด จึงตรวจพบว่าตั้งครรภ์


“พอส่งรูปผลตรวจครรภ์ให้เขาดู เขาก็เงียบไป ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย จนกระทั่งเขายอมพูดว่า จะหาคลินิกทำแท้งให้ โดยบอกพร้อมออกค่าใช้จ่าย แต่หนูไม่อยากทำแท้ง เลยอ้างว่าอยากปรึกษาหมอก่อน เพราะในใจไม่อยากเอาลูกออก หนูรู้ดีว่าเขาเองก็ยังไม่พร้อม เพราะยังเรียนปริญญาโทอยู่ และมีลูกติดอยู่แล้วหนึ่งคน” น.ส.บีบี้ กล่าว


น.ส.บีบี้ บอกว่า ตัดสินใจร้องสื่อเพราะอยากให้นายเดฟออกมารับผิดชอบลูก แม้ตนเองจะไม่ต้องการให้ฝ่ายชายรับผิดชอบดูแลชีวิตคู่ก็ตาม พร้อมระบุว่าหากฝ่ายชายยังไม่ยอมรับ อาจต้องดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้มีการรับรองบุตร


ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม นายเดฟ ซึ่งยอมรับว่า ตนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ น.ส.บีบี้ จริง แต่ไม่ได้คบหากันอย่างจริงจัง และยอมรับว่าตนเองเป็นฝ่ายเสนอให้ทำแท้ง เพราะยังไม่พร้อมจะมีลูกอีกคน เนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายที่มีอยู่แล้ว


“ผมไม่ปฏิเสธว่าเคยมีอะไรกัน แต่ตอนที่รู้ว่าตั้งท้อง ก็ได้คุยกันว่าจะหาทางแก้ปัญหาแบบถูกต้องตามกฎหมาย ตอนแรกผู้หญิงก็ดูเหมือนจะยอม แต่สุดท้ายเขาเปลี่ยนใจ บอกไม่อยากทำแท้ง ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเข้าใจความรู้สึกเขา” นายเดฟ กล่าว


นายเดฟ ระบุอีกว่า เคยพยายามไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ที่สถานีตำรวจ โดยมีแม่ของฝ่ายหญิงร่วมรับฟัง ตนยืนยันว่าพร้อมดูแลเด็กตามกำลัง หากเด็กเกิดมาเป็นลูกจริง แต่ส่วนตัวก็ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของตนหรือไม่ เพราะไม่ได้ตรวจ DNA


“ถ้าเด็กเป็นลูกผมจริง ผมพร้อมดูแล แต่ผมก็ต้องขอตรวจให้แน่ใจก่อนเหมือนกัน ฝากบอกน้องบีบี้ว่า ผมไม่ได้หนีไปไหน พร้อมช่วยเหลือตามสมควร แต่เรื่องจะให้รับผิดชอบชีวิตคู่ ผมคงไม่สามารถทำได้แล้วครับ” นายเดฟ กล่าวย้ำในตอนท้าย