วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 21:05 น.

ภูมิภาค

ตร.เร่งล่าคนร้าย ฆ่าชิงทรัพย์สาวพิการป่วยติดเตียง

วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 20.22 น.

ตำรวจเร่งไล่ล่าคนร้ายบุกฆ่าชิงทรัพย์หญิงพิการ ป่วยติดเตียงในบ้านโป่ง จ.ราชบุรี


จากกรณีคนร้ายบุกเข้าไปในบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แล้วลงมือฆ่า นางสาวศรีไพร บุตรคำ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการป่วยติดเตียง ก่อนชิงเงินสดจำนวน 7,500 บาท หลบหนีไป เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 16 กรกฎาคม 2568


ล่าสุด วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 พล.ต.ต.วิธิวัฒน์ ศรีทองจ้อย รอง ผบก.ภ.จ.ราชบุรี และ พ.ต.อ.อภิรัฐ พุ่มกุมาร รอง ผบก.ภ.จ.ราชบุรี พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี และตำรวจภูธรภาค 7 ได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.กอบโชค เล็กตระกูล ผกก.สภ.บ้านโป่ง ณ ห้องประชุม ศปก.สภ.บ้านโป่ง เพื่อเร่งคลี่คลายคดี


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แบ่งชุดทำงาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางใกล้จุดเกิดเหตุ และเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งความขัดแย้งส่วนตัวและประเด็นชิงทรัพย์ นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางเข้าออกด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นสวนผลไม้ คาดว่าคนร้ายอาจเดินเท้าเข้ามา เนื่องจากยานพาหนะไม่สามารถเข้าได้


ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้าน และเตรียมนำศพไปฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม 2568 ณ วัดบ้านฆ้อง ต.ท่าผา


นางสาวละมัย บุตรคำ อายุ 55 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้ตายเป็นบุตรคนที่ 2 จากพี่น้องทั้งหมด 4 คน ป่วยเป็นโรคโปลิโอ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ครอบครัวได้ว่าจ้างหญิงรายหนึ่งมาช่วยดูแลช่วงกลางวันและเย็น ส่วนช่วงเช้า พี่น้องอีก 2 คนจะช่วยกันดูแล


ในวันเกิดเหตุ น้องสาวคนสุดท้องโทรมาบอกว่าให้มาดูพี่สาว เพราะน่าจะเกิดเหตุร้าย เมื่อตนไปถึงก็พบว่าผู้ตายถูกทุบศีรษะ เลือดไหลนองเต็มพื้น และเงินจำนวน 7,500 บาท ที่ผู้ดูแลเคยยืมแล้วฝากคืนไว้กับผู้ตาย ได้หายไปด้วย
นางสาวละมัย กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าว่า “ไม่คิดว่าเงินแค่ 7 พันกว่าบาทถึงกับต้องฆ่ากันเลยเหรอ แค่หยิบไปก็ไม่มีใครรู้ เชื่อว่าคนร้ายคงกลัวว่าผู้ตายจะจำได้ เลยก่อเหตุโหดร้ายแบบนี้”


นางสาวพิกุล บุตรคำ น้องสาวคนสุดท้อง เล่าเพิ่มเติมว่า บ้านของตนอยู่ใกล้กัน แต่ช่วงเกิดเหตุไม่รู้เรื่องเลย ไม่มีเสียงอะไรแม้แต่เสียงหมาเห่า จนผู้ดูแลมาเรียกให้ไปดูพี่สาว พบว่าผู้ตายนอนเอาหมอนปิดหน้าอยู่ คิดว่าอาจเป็นลม แต่เมื่อเปิดหมอนออกก็พบเลือดเต็มใบหน้าและที่นอน


จากการตรวจสอบ พบว่าคนร้ายน่าจะแอบเข้าทางหลังบ้าน เพราะหมาไม่เห็น มีการงัดหน้าต่างและพยายามงัดประตูห้องอีกห้องหนึ่งด้วย นางสาวพิกุลกล่าวว่า “อยากได้อะไรก็เอาไป ไม่ต้องทำกันขนาดนี้ มันโหดร้ายเกินไป ขอให้ตำรวจจับตัวให้ได้เร็วที่สุด”


ขณะนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างเร่งติดตามเบาะแสคนร้ายอย่างต่อเนื่อง

 

หน้าแรก » ภูมิภาค