วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 14:10 น.

ภูมิภาค

พ้นคุกไร้บ้าน! ผัวเก่าขายบ้านทิ้งสาวใหญ่ซุกโรงรถ

วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 09.37 น.

สาวใหญ่พ้นโทษกลับบ้าน พบอดีตผัวติดพนันแอบขายบ้าน-สวนทุเรียน ต้องอาศัยโรงรถญาติซุกหัวนอน ร้องขอความเป็นธรรม


นางสาวรัชนีพร กลิ่นม่วง อายุ 53 ปี ชาวอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร เปิดใจทั้งน้ำตาหลังพ้นโทษจากคดียาเสพติด กลับบ้านหวังใช้ชีวิตช่วงบั้นปลาย ทำสวนทุเรียนบนที่ดินมรดกที่พ่อแม่สร้างไว้ให้ กลับพบว่าอดีตสามีที่เลิกรากันไปนานกว่า 2 ปี แอบย่องขายบ้านและสวนทุเรียนช่วงที่เธอถูกจำคุก โดยเชิดเงินหนีหาย ทิ้งให้เธอต้องซุกหัวอยู่ในโรงรถญาติ ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐแต่ก็ไร้ผล


เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 12 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร หลังได้รับการร้องเรียนจากนางสาวรัชนีพร ซึ่งปัจจุบันไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องขอพักอาศัยในโรงรถของญาติสามีใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อเดินเรื่องขอความเป็นธรรม และได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าแซะแล้ว


นางสาวรัชนีพรเล่าว่า เธอเป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี พ่อแม่ซื้อที่ดินขนาด 5 ไร่ในอำเภอท่าแซะ และปลูกบ้านให้ เธอจึงนำสามีมาอยู่ด้วยกัน โดยบ้านหลังนี้จดทะเบียนชื่อเธอเป็นเจ้าบ้านเพียงผู้เดียว ไม่มีชื่อสามีอยู่ในทะเบียนบ้าน ต่อมาสามีมีพฤติกรรมติดพนันและผู้หญิง แล้วพาผู้หญิงหนี ทิ้งให้เธออยู่ตามลำพังเกือบ 3 ปี ช่วงนั้นเธอได้ปลูกต้นทุเรียนไว้ประมาณ 70 ต้น


หลังจากนั้นเธอถูกจับคดียาเสพติดและต้องโทษจำคุก 11 ปี 11 เดือน ในทัณฑสถานหญิงจังหวัดสงขลา พ้นโทษเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 กระทั่งวันที่ 11 กันยายน ตั้งใจกลับไปอยู่บ้านหลังเดิม แต่พบว่าบ้านและสวนทุเรียนถูกอดีตสามีขายไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้เธอต้องไปขออาศัยญาติที่อำเภอหลังสวนอยู่ชั่วคราว ก่อนย้ายมาอยู่โรงรถของญาติสามีใหม่เพื่อเดินเรื่องติดตามทรัพย์สินของตน


จากการสืบหาข้อมูลเอง เธอพบว่าทรัพย์สินของเธอถูกขายเปลี่ยนมือแล้วถึง 5 ครั้ง โดยเจ้าของล่าสุดซื้อไปเมื่อประมาณ 1 ปีก่อน รวมที่ดิน 5 ไร่ พร้อมบ้านและสวนทุเรียนในราคา 3 ล้านบาท ทั้งที่ชื่อในทะเบียนบ้านยังเป็นของเธออยู่ ซึ่งเธอตั้งข้อสงสัยว่าใครเป็นผู้เซ็นรับรองเอกสารการซื้อขายได้ ทั้งที่เจ้าของบ้านตัวจริงติดคุกอยู่ และไม่มีการมอบอำนาจใดๆ


ล่าสุด เธอได้นำเอกสารหลักฐานทั้งหมดไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร แต่กลับได้รับคำตอบเพียงให้ไปเจรจากันเอง โดยไม่สามารถออกหนังสือรับรองหรือช่วยเหลืออะไรได้ ทำให้เธอรู้สึกหมดหวังและไม่เข้าใจว่าวัตถุประสงค์ของศูนย์ดำรงธรรมมีไว้เพื่ออะไร จึงจำเป็นต้องพึ่งสื่อมวลชนในการขอความเป็นธรรม


“เรากลับมาจากคุก ไม่มีบ้าน ไม่มีที่อยู่ บ้านที่พ่อแม่สร้างให้กลับถูกคนอื่นขายไป ทั้งที่ชื่อบ้านยังเป็นของเรา แล้วแบบนี้จะให้เรามีชีวิตต่อไปอย่างไร...” นางสาวรัชนีพร กล่าวทั้งน้ำตา

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค