วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ที่ห้องประชุมโรงแรมชาร์ - ลอง บูทรีค  อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นประธานเปิดการประชุม/สัมมนา เรื่อง “การบูรณาการขับเคลื่อนงานคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วย HPV DNA Test และมะเร็งครบวงจร ปีงบประมาณ 2568 จ.กาฬสินธุ์” โดยมีนายนพดล จอมเพชร รองผวจ.กาฬสินธุ์ นางศิริวรรณ  ชัยสมบูรณ์พันธ์ ผู้ช่วยอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ทวีรัชต์ ศรีกุลวงศ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ พญ.จารุพรรณ มโนสิทธิศักดิ์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์ที่ 7 ขอนแก่น ผอ.ศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 7 ผอ.สคร.7 ขอนแก่น รองนายกอบจ.กาฬสินธุ์ คณะผู้บริหาร อสม.บุคคลากรสาธารณสุข และ ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม

นพ.ทวีรัชต์ ศรีกุลวงศ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า นโยบาย“มะเร็งครบวงจร” เป็นการจัดบริการด้านโรคมะเร็งที่ครบวงจร ครอบคลุมทั้งระบบตั้งแต่ การส่งเสริมป้องกัน การคัดกรอง การตรวจวินิจฉัย การรักษาจนถึงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย  โดยมะเร็งสำคัญ 5 โรค ประกอบด้วย มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ ไส้ตรง มะเร็งตับ และมะเร็งท่อน้ำดี

นพ.ทวีรัชต์ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และรณรงค์การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเองและมะเร็งอื่น ๆ ให้ประชาชน  ได้มีความรู้ มีความตระหนักในการดูแลตนเอง ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อน “มะเร็งครบบวงจร”อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชนในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อไป

อย่างไรก็ตามสำหรับกิจกรรมในงานวันนี้มีการจัดนิทรรศการให้ความรู้ 5 บูธ และมีการรับบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วย HPV DNA Test โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 500 คน ประกอบด้วย อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.บุคลากรสาธารณสุข ประชาชน และผู้บริหารจากทุกระดับ

ด้านนพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า สำหรับ จ.กาฬสินธุ์มีผลการทำงานคัดกรองมะเร็งที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เองก็พร้อมที่จะบูรณาการทำงานร่วมกันเพื่อคัดกรองและตรวจโรคมะเร็งให้กับประชาชน ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนการจัดงานในวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายด้านสาธารณสุขของรัฐบาล ภายใต้แนวคิด “การจัดบริการมะเร็งครบวงจร” ที่ครอบคลุมทั้งระบบ ตั้งแต่การส่งเสริมป้องกัน การคัดกรอง การตรวจวินิจฉัย การรักษา จนถึงการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย

ซึ่งโครงการนี้นอกจากจะเป็นการนำเสนอนวัตกรรมและบริการทางการแพทย์ที่ทันสมัยแล้ว ยังเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในเขตสุขภาพที่ 7 เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ เข้าถึงได้ และเท่าเทียมกันอีกด้วย อย่างไรก็ตามขอเชิญชวนหญิงอายุ 30-59ปี มาร่วมคัดกรองโรคมะเร็งในโรงพยาบาล เพราะหากตรวจพบว่าเสี่ยงก็จะสามารถรักษาได้ทันท่วงที