ตร.บุกจับเพิ่มอีก 5 ราย คดีอุ้มฆ่าฝังดินชายวัย 33 ปี หลังพบหลักฐานโยงเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ขยายผลถึงผู้สั่งการจากประเทศเพื่อนบ้าน

จากคดีสะเทือนขวัญ พบศพนายทวีชัย พรมสองชั้น อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดตรัง ถูกฆ่าและฝังกลบในป่าละเมาะหลังวัดหัวเขา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังเยาวชนในพื้นที่พบกลิ่นเหม็นผิดปกติ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และพบรอยสักโผล่พ้นพื้นดิน

ก่อนหน้านี้ตำรวจจับเยาวชนชายอายุ 17 ปี ได้ 2 คน หนึ่งในนั้นรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงศีรษะผู้ตาย ก่อนร่วมกันฝังศพ ต่อมาตำรวจได้จับกุมนายสถาพร หรือ "หลา" อายุ 34 ปี หลังพบว่าเป็นผู้ว่าจ้างกลุ่มเยาวชนให้ลงมือฆ่า

ล่าสุดเวลา 05.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดตรังและตำรวจภาค 9 กระจายกำลังบุกค้น 9 จุดในจังหวัดตรังและพัทลุง

ที่บ้านเช่าในพื้นที่ ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง เจ้าหน้าที่จับกุมนายธีระศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน สนับสนุนการมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต กักขังหน่วงเหนี่ยว และข่มขืนใจผู้อื่นโดยใช้อาวุธ

นอกจากนี้ยังจับผู้ต้องหาอีก 4 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการอำพรางหลักฐาน โดยทำหน้าที่นำรถของผู้ตายไปทิ้งในสระน้ำ พื้นที่ ต.เขาปูน อ.ห้วยยอด

ชนวนสังหารโยงยาเสพติด เงิน 2 ล้านหาย ผลการสืบสวนพบว่า นายทวีชัยและภรรยา น.ส.ประกายทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ได้รับการว่าจ้างจากขบวนการค้ายาเสพติดให้เฝ้ายาบ้าจำนวน 2 ล้านเม็ด ที่ จ.นครปฐม โดยมีนายอนุชัย หรือ “คิม” อายุ 30 ปี และนายคมจักร หรือ “โด้” อายุ 30 ปี เป็นผู้ว่าจ้าง

ต่อมา กลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้าทำร้ายและยึดยาบ้าไป ก่อนเรียกเงิน 2 ล้านบาทเพื่อแลกกับการคืนยา นายทวีชัยจึงโอนเงินค่าไถ่ไปให้ตามคำสั่ง แต่กลับไม่ได้ยาคืน ทำให้ต้นทางเข้าใจว่าเขาเชิดเงินไว้

หลังเกิดความคลางแคลง กลุ่มค้ายาได้วางแผนลวงให้นายทวีชัยเดินทางไปที่ จ.ตรัง โดยมีนายสถาพรและนายธีระศักดิ์เป็นผู้ไปรับตัว พร้อมพยายามรีดเงินคืน แต่ผู้ตายยืนยันว่าไม่ได้เอาเงินไป และสงสัยว่าอาจเป็นภรรยาและหญิงคนสนิทที่เกี่ยวข้อง

ก่อนเสียชีวิต นายทวีชัยได้บอกว่าไม่ใช่ตนที่เอาเงินไป จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีธนาคารของ น.ส.ประกายทิพย์ มีเงินโอนเข้ากว่า 1 ล้านบาท และขณะนี้เธอได้หลบหนี ไม่สามารถติดต่อได้

รายงานข่าวยังระบุว่า นายอนุชัยและนายคมจักร มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ จ.กระบี่ ตรัง และพัทลุง เคยถูกดำเนินคดีหลายครั้ง และปัจจุบันได้หลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และมีส่วนเกี่ยวข้องในการสั่งการสังหารครั้งนี้