เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 2 สิงหาคม 2568 นายรักชาติ แคล่วคล่อง กำนันตำบลถ้ำสิงห์ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากเจ้าของสวนยางพาราในพื้นที่หมู่ 3 ต.ถ้ำสิงห์ ว่ามีแรงงานชาวเมียนมาแสดงพฤติกรรมน่าสงสัยคล้ายคนเสพยาบ้า จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ

จากการสอบถามทราบชื่อแรงงานคนดังกล่าวคือ นายอาแง อายุ 27 ปี สารภาพว่าเสพยาบ้าจำนวน 3 เม็ด ซึ่งซื้อจากชาวเมียนมารายหนึ่ง ที่พักอาศัยอยู่ใกล้วัดถ้ำสิงห์ พื้นที่หมู่ 12 ต.บ้านนา

กำนันรักชาติจึงประสานนายภาณุวัตน์ สวัสดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.บ้านนา เพื่อวางแผนล่อซื้อ โดยให้นายอาแงเป็นสายล่อซื้อยาบ้า 3 เม็ด ในราคา 200 บาท พร้อมถ่ายภาพและจัดทำเอกสารหลักฐาน

ต่อมา กำนันและผู้ใหญ่บ้าน พร้อมกำลัง จึงนำนายอาแงไปยังบ้านพักไม่มีเลขที่ ซึ่งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่าง ต.บ้านนา กับ ต.ถ้ำสิงห์ ขณะเฝ้าสังเกตการณ์พบการส่งมอบยาบ้าและเงินเกิดขึ้นจริง เจ้าหน้าที่จึงเข้าชาร์จจับกุมทันที

ผู้ถูกจับกุมคือ นายอ่าว อายุ 55 ปี และนางเวย์ อายุ 50 ปี สองสามีภรรยาชาวเมียนมา พร้อมของกลางยาบ้าล่อซื้อ 3 เม็ด ธนบัตรล่อซื้อ 2 ฉบับ (ฉบับละ 100 บาท) ยาบ้าที่ซุกซ่อนไว้หลังบ้านจำนวน 106 เม็ด และเงินสดจากการขายยาบ้าอีก 6,430 บาท

จากการสอบสวน ทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ลักลอบขายยาบ้าให้แรงงานต่างด้าวในพื้นที่มาเป็นเวลานาน โดยรับยาบ้ามาจากเอเย่นต์ชาวเมียนมาที่ชายแดนด้าน จ.ระนอง ครั้งละ 200 - 500 เม็ด ก่อนจะนำมาขายต่อในพื้นที่

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

ส่วนนายอาแง ซึ่งมีสถานะเป็นผู้เสพและให้ความร่วมมือในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการส่งเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูตามกฎหมาย

ทั้งนี้ พื้นที่จังหวัดชุมพรยังคงพบการแพร่ระบาดของยาบ้าในหมู่แรงงานต่างด้าว โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจ สภ.มาบอำมฤต อ.ปะทิว เคยจับผู้ค้ายาชาวเมียนมา 2 ราย พร้อมของกลางกว่า 6,000 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับยามาจากแหล่งเดียวกันที่ชายแดน จ.ระนอง