วันที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านแหลมทอง ตำบลหัวโพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมคณะผู้บริหารจังหวัดราชบุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและรับฟังผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ โดยมอบทุนสงเคราะห์ให้กับกลุ่มเสี่ยงที่อาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ณ บ้านแหลมทอง ตำบลหัวโพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรีการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริหารระดับนโยบาย ภาคประชาชน และภาคีพี่เลี้ยงร่วมรับฟังผลการดำเนินงานและระดมความคิดเห็นแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยใช้กระบวนการกองทุนแม่ของแผ่นดิน ซึ่งเป็นต้นแบบที่ประสบผลสำเร็จในการดูแลและป้องกันยาเสพติดในชุมชน บ้านแหลมทอง ตำบลหัวโพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ได้รับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน และมีการดำเนินการป้องกันยาเสพติดในชุมชนมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันจากนั้นได้มีการมอบทุนประกอบอาชีพให้กับนายปิยะ (โอ๊ต) แสงศรีเมือง อายุ 46 ปี ชาวอำเภอบ้านโป่ง ที่เดินเท้าเพื่อแม่ 1,400 กิโลเมตร เพื่อเลิกยาเสพติด จากราชบุรีไปเชียงใหม่และกลับราชบุรี โดยมอบเป็นรถพ่วงข้างพร้อมอุปกรณ์ขายก๋วยเตี๋ยวแบบเร่ขายครบชุด เพื่อนำไปประกอบอาชีพตามความฝันของนายโอ๊ต

นายปิยะ (โอ๊ต) แสงศรีเมือง กล่าวว่าตนเองนั้นเสพยาเสพติดมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.3-ป.4 อายุประมาณ 9 ขวบ ตอนนั้นเริ่มเสพกัญชา และเสพจนถึง ม.3 ต่อมาก็เริ่มเปลี่ยนไปเสพยาบ้า ซึ่งทำให้ชีวิตหักเหไปในทางที่ไม่ดีจนกระทั่งอายุ 30-40 ปี ชีวิตเสียหายหลายด้าน แม้กระทั่งความเป็นคน ก่อนที่ตนจะคิดได้ก็เห็นน้ำตาของแม่ จึงตัดสินใจจะเลิกยา แต่ไม่คิดว่าจะเลิกได้ จึงออกจากบ้านเดินไปโดยไม่คิดว่าจะมีจุดหมายปลายทาง แค่จะเดินจนกว่าจะเลิกได้ โดยไม่คิดว่าจะถึงเชียงใหม่หรือไม่ แต่ระหว่างทางได้พบกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ที่เข้ามาช่วยเหลือ ให้คำแนะนำและเปลี่ยนแนวคิดใหม่ให้ตนเดินเพื่อเลิกยาเพื่อแม่ ไม่ฆ่าตัวตายแล้วในที่สุด ตนก็ทำได้ และอยากบอกคนที่เสพยาเสพติดว่า การเสพยาเหมือนกับการหลงทาง อยากให้ทุกคนที่เหมือนตนพยายามหาทางออกให้ได้ก่อนที่จะเสียคนที่รักไป

นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า วันนี้เรามาที่หมู่บ้านแหลมทอง ตำบลหัวโพ เพื่อเยี่ยมศูนย์เรียนรู้ของกองทุนแม่ของแผ่นดิน ซึ่งได้รับพระราชทานเงินขวัญถุงแล้ว และนำมาดำเนินการศูนย์เรียนรู้ โดยมีความสำคัญในการพัฒนาคนในชุมชนให้เป็นปราชญ์ในการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาเสพติดหรือการดูแลสุขภาพของชุมชน สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยลดปัญหายาเสพติดได้ ส่วนประเด็นที่สอง คือเรื่องของน้องโอ๊ต อายุ 46 ปี ที่มีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะเลิกยาเสพติด หลังจากที่พยายามมาแล้วหลายครั้ง และครั้งนี้เขาตั้งปฏิธานที่จะเดิน 1,400 กิโลเมตร เพื่อแม่และจะต้องเลิกยาให้ได้ ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ ทาง ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสนับสนุนดูแลตลอดเส้นทางที่เขาเดินทางไป ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ส. ฝ่ายปกครอง และตำรวจช่วยดูแล เมื่อพบว่าความตั้งใจของเขาจริงจัง ป.ป.ส. จึงมอบเงินสนับสนุนในการประกอบอาชีพ ขณะเดียวกัน พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้มอบเงินส่วนตัวเพื่อสนับสนุนด้วย และตามที่น้องโอ๊ตร้องขอมา เขาต้องการอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวโดยใช้รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ซึ่งเราก็ได้มอบให้เขาเพื่อช่วยเหลือให้สามารถทำอาชีพและเลิกยาเสพติดได้ ในวันนี้คุณแม่ของน้องโอ๊ตได้รับลูกคืน สังคมและชุมชนได้คนดีกลับคืนมา