วันเสาร์ ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568 01:35 น.

ภูมิภาค

ผบช.ภ.1 นำผู้ต้องหาทำแผนชิงทองในห้างดังย่านบางบ่อ

วันพุธ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 21.28 น.

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 20 ส.ค.68 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ 1 พล.ต.ต. นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ 1พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ชัยรัชต์ รุ่งเรือง ผกก.สภ.บางบ่อ ได้นำตัวนายนายวีรวัฒน์ หรือ อาร์ม (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และนายอิทธิ์พงษ์ หรือ มด อายุ 28 ปีสองผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางสร้อยข้อมือทองคำ จำนวน 36 เส้น รวมน้ำหนัก 89 บาทพร้อมอาวุธปืนแบงกันดัดแปลง เสื้อผ้า หมวกกันน็อก ถุงมือ รถจักรยานยนต์ เรือหางยาว ที่ใช้ในการก่อเหตุ พร้อมชี้แจงแผนประทุษกรรม ชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.68 ที่ผ่านมานั้น

 


      

และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามทรัพย์ที่ถูกลักเอาไป ได้แก่ ทองคำรูปพรรณ สร้อยข้อมือ จำนวน 36 เส้น น้ำหนักรวม 89 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.5 ล้านบาท พร้อมตรวจยึดของกลางอื่นๆ ที่ใช้ในการกระทำความผิด โดยในชั้นนี้ผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบ่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้จัดแถลงข่าวผลการจับกุม พร้อมทั้งนำผู้ต้องหานำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพตามขั้นตอนของกฎหมาย
             


พล.ต.ท.สุรพล ได้เข้าสอบถามผู้ต้องหาด้วยตัวเองถึงแผนประทุษกรรมในการก่อเหตุ โดย นายวีรวัฒน์ หรือ อาร์ม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุที่ตนเองทำลงไปนั้น เพรามีความจำเป็นต้องใช้เงิน เนื่องจากตนเองติดหนี้นอกระบบ ที่ยืมมาลงทุนเปิดอู่ซ่อมรถ และต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท จึงคิดวางแผนในการก่อเหตุ โดยใช้เวลากว่าสัปดาห์ในการวางแผน ตั้งแต่การจัดการเสื้อผ้าหมวกกันน็อก การนำรถจักรยานยนต์มาพ่นสีใหม่ การอำพรางตัวต่างๆ รวมถึง การวางแผนในการหลบหนี มีการสำรวจ เส้นทางและจุดที่ต้องนำเอารถจักรยานยนต์ไปทิ้งน้ำ โดยมีการชักชวนรุ่นน้องที่เป็นญาติการใช้เรือร่องสำรวจเส้นทางและมาร์คตำแหน่งจุดนัดพบทางเรือ เลือกจุดและเส้นทางทางเรือที่ไม่มีกล้องวงจรปิดและบ้านคนเพื่อยากต่อการติดตามของตำรวจ และให้รุ่นน้อง คือนายมด ขับเรือมาจอดรถรับยังใต้สะพานข้ามคลอง เพื่อหลบหนี กลับบ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
               

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาในความผิดฐาน "ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือร่วมกันลักของโจร, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรดำเนินคดีต่อไป.

หน้าแรก » ภูมิภาค