วันที่ 1 กันยายน 2568 ตำรวจ สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้ประสานเทศบาลตำบลธาตุพนม และพื้นที่ใกล้เคียง นำรถดับเพลิงช่วยระงับเหตุ กรณีเกิดไฟไหม้ตึกอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น อยู่ด้านหลังตลาดสดเทศบาลฯ และใกล้กับวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ทำให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดแตกฮือ รวมถึงอาคารข้างเคียงที่ส่วนใหญ่ เปิดเป็นร้านจำหน่ายสินค้าและบริการ ต่างเตรียมขนย้ายสิ่งของ หากเกิดมีเพลิงลุกลาม หลังจากนั้นทางเทศบาลตำบลธาตุพนม จึงได้ระดมรถดับเพลิงทั้งในเขตและหน่วยงานใกล้เคียง ร่วมทำการดับไฟ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

จากการตรวจสอบเบื้องต้น อาคารที่เกิดเหตุ เปิดเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นลอยซึ่งดัดแปลงเป็นห้องนอนของลูกสาวเจ้าของร้าน ทราบจากลูกน้องที่ทำงานอยู่จำนวน 8 คน ว่า เจ้าของร้านชื่อเจ๊อ๊อดอายุ 50 กว่าปี  ขณะเกิดเหตุเจ๊ไม่อยู่ เพราะไปรักษาอาการป่วยอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยมีลูกสาวซึ่งเป็นเจ้าของห้องไปเฝ้าไข้ ห้องนอนดังกล่าวจึงปิดล็อกกุญแจไว้ 

ในขณะที่คนงานทั้งหมดอยู่ภายในร้าน พบมีกลุ่มควันกระจายและกลิ่นเหม็นไหม้จากห้องนอนชั้นลอย  จึงโทรศัพท์แจ้งนายขจรศักดิ์ นิติชิน นายกเทศมนตรีตำบลธาตุพนม จากนั้นจึงสั่งการให้นายธวัชชัย เพียราช ปลัดเทศบาลฯ พร้อมด้วย นายกฤษฏา เนตรไลย์ รองประธานสภาเทศบาลฯ จ.อ.ดิเรก เรียงเงิน นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ ช่วยประสานรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง เข้าควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลาต่อมา 

โดยนายธวัชชัย เพียราช ปลัดเทศบาลฯ เปิดเผยว่าเมื่อมาถึงก็เห็นกลุ่มควันโขมงไปหมด ถือเป็นอุปสรรคในการดับเพลิงมาก แต่เจ้าหน้าที่ได้ฝ่ากลุ่มควันเข้าไปดับไฟลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนสาเหตุต้องรอให้ทางพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง 

ด้าน นายเอกวัชร์ มุ่งอ้อมกลาง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลธาตุพนม เล่าว่าต้นเพลิงเป็นเต้ารับสายไฟ มีปลั๊กเสียบคาอยู่ตรงบริเวณหน้าประตูห้องน้ำของห้องนอน ซึ่งปลั๊กดังกล่าวมาจากนาฬิการะบบไฟฟ้า คาดว่าอาจเกิดสภาพเสื่อม ตัวเครื่องจึงร้อนแล้วเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ แต่เป็นการสันนิษฐานเบื้องต้น โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยสินค้าที่ทางร้านนำมาจำหน่าย ได้แก่ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง อุปกรณ์ทางการเกษตร วางจำหน่ายด้านล่าง ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก หลังเกิดเหตุลูกน้องได้โทรศัพท์บอกเจ้าของร้านทราบแล้ว