เวลา 13.00 น.วันที่ 2 กันยายน 2568 หลังจากคณะคณะผู้สังเกตการณ์นานาชาติ (IOT) จาก 8 ชาติอาเซียน นำโดยคณะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ชายแดนจังหวัดจันทบุรีและตราด ยืนยันภาพรวมสงบเรียบร้อยและไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ชี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการจัดการพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ได้เดินทางมายังชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 (ชค.ทพ.นย.ที่ 3 บ้านเขาล้าน)ซึ่งในอดีตเป็นสถานศูนย์อพยพชาวกัมพูชากว่า 2 แสนคนที่หนีภัยสงครามมา เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน 

จากนั้นเดินทางไปดูทุนระเบิดที่ชค.ทพ.นย.ที่ 3 บ้านเขาล้าน ได้เก็บไว้ เพื่อให้คณะผู้ช่วยฑูตทหารได้รับทราบปัญหาในพื้นที่ ซึ่งทุนระเบิดทั้งหมดทางหน่วยเก็บกู้ระเบิดได้นำมาเก็บรักษาไว้หลังจากเก็บกู้ในพื้นที่แนวชายแดนไทยกัมพูชา รวมทั้งการสาธิตการเก็บกู้ระเบิดด้วย แล้วเดินทางที่พิพิธภัณฑ์ศูนย์ราชการุณย์ ที่บันทึกหลักฐานความเป็นอยู่ของผู้อพยพชาวกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทยและสมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ได้เข้ามาช่วยเหลือ ท่ามกลางความสนใจของคณะผู้ช่วยฑูตทหารทุกคน จากนั้นเวลา 15.00 น.คณะผู้ช่วยฑูตทหารได้ร่วมรับฟังบรรยายสรุปจากพล.ต.กรรณ บุญชัย รอง จก.ขว.ทหาร (หน.คณะฝ่ายไทย),พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษก กองทัพเรือ ในสถานการณ์ต่างๆตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาทั้งจันทบุรีและตราด โดยมีการซักถามในประเด็นที่สนใจ 

จนจบการประชุมในเวลา 16.15 น. ก่อนเดิทชนทางกลับ พล.ต. ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนคณะผู้สังเกตการณ์นานาชาติ (IOT) ได้กล่าวแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยไม่ให้มีการซักถามเพิ่มเติมว่า ภายหลังการลงพื้นที่แล้ว พบว่า สถานการณ์ในจังหวัดจันทบุรีและตราดในขณะนี้สงบเรียบร้อยดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม และไม่มีความขัดแย้งใดๆในขนะนี้ แนวโน้มดีหลังจากมีการเจรจรกันทั้งในระดับพื้นที่และในระดับสูงขึ้นไป ซึ่งคณะผู้สังเกตการณ์พอในระดับที่ดี ส่วนประเด็นปัญหาสำคัญคือความคืบหน้าเรื่องพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน นั้น 

ซึ่งพล.ต. ซัมซุล ริซัล บิน มูซา ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได่เจรจาในระดับพื้นที่แล้วได้ทำการถอนกำลังออกไป 200 เมตรซึ่งเป็นตัวอย่างการจัดการที่ดี โดยเฉพาะการถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาทและตั้งแนวอยู่ห่างจากพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 200 เมตร ทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นเขตปลอดคน ซึ่งสร้างบรรยากาศแห่งสันติภาพที่ทุกฝ่ายพอใจระหว่างรอการตัดสินใจในระดับนโยบายต่อไป "เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนสามารถกลับมาเปิดร้านค้าและดำเนินชีวิตได้ตามปกติเหมือนเดิม" พล.ต. ซัมซุล ริซัล บิน มูซากล่าว 

ทั้งนี้ ก่อนหน้า พล.ต. ซัมซุล ริซัล บิน มูซา หัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์นานาชาติแจ้งว่า ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 และกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดรวม 3 แห่ง และต่อไปจะได้แบ่งทีมเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบเชิงลึก ก่อนจะจัดทำรายงานสรุปผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการและจะแถลงรายละเอียดให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้งในอนาคต 

หลังจบการแถลงข่าวแล้ว พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษก กองทัพเรือ กล่าวเสริมว่า คณะผู้สังเกตการณ์นานาชาติพอใจกับสถานการณ์ในพื้นที่จันทบุรีและตราดที่การสู้รบไม่เกิดขึ้น และยังสามารถหารือและเจรจาได้ข้อสรุปที่ดี ซึ่งทางคณะของฝ่ายไทยจะได้รวบรวมข้อมมูลต่างๆเพื่อนำไปหารือในการประชุม GBC ในสัปดาห์หน้า ซึ่งน่าจะผลสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ชายแดน และน่าจะทำให้มีการผ่อนปรนเปิดชายแดนในพื้นที่ที่ไม่มีการสู้รบโดยเฉพาะจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด