วันพุธ ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2568 05:25 น.

ภูมิภาค

ป้าดวงซวยเก็บเห็ดวันแรก เจองูกะปะฉก นิ้วพังเกือบเอาชีวิตไม่รอด

วันอาทิตย์ ที่ 07 กันยายน พ.ศ. 2568, 17.27 น.

อำเภอนางรอง/ป้าวัย 62 ดวงซวยเห็นเพื่อนบ้านเก็บขายได้เงินพันทุกวัน ออกไปวันแรกกับสามีเห็นก้อนกลมสีขาวเอามือคว้าหวังเก็บเอาเห็ด ที่แท้เป็นงูกะปะ “กับระเบิดชีวภาพ” กำลังกกไข่ สามีเผยโชคดีที่ตนรู้เส้นทางลงจากเขาได้ดี จึงถึงมือหมอได้ทันเผยชาวบ้านเจอกัดแทบทุกวัน วันเดียว 3 ราย เตือนคนเก็บเห็ดช่วงนี้เป็นฤดูงูวางไข่


วันที่ 7 ก.ย.68 หน่วยกู้ชีพนำตัวนางแฉล้ม ปิ่นสุวรรณ์ อายุ 62 ปี เลขที่ 64 หมู่ 6 ต.ทรัพย์พระยา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พร้อมซากงูกะปะ ไปส่งโรงพยาบาลนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ 


หลังจากไปเก็บเห็ดที่เขาคอก ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แล้วถูกงูกะปะ กัดบริเวณนิ้วกลางขวาได้รับบาดเจ็บ แพทย์ได้ทำการฉีดเซลุ่มเพื่อทำการรักษาเบื้องต้นแล้ว รอดูผลการตรวจเลือดหากพบว่าเป็นปกติจึงจะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้


นางแฉล้ม เล่าว่าตนเองไม่เคยไปเก็บมาก่อน แต่เห็นเพื่อนบ้านไปเก็บเอาไปขายได้เงิน คนละ 1,000-2,000 บาทต่อวัน จึงอยากจะไปเก็บกับเขาบ้างเพราะนอกจากจะได้กินแล้วยังขายได้เงินอีกด้วย จึงชวนสามีไปตั้งแต่ตี 5 วันนี้


เมื่อขึ้นไปบนเขาเก็บเห็ดได้ถึง 3 ตะกร้า พอดีไปเห็นลูกกลมๆสีขาวอยู่ใต้ใบไม้ คิดว่าจะต้องเป็นเห็ดอย่างแน่นอน จึงเอามือสอดเข้าไปหวังจะเก็บ จากนั้นมีความรู้สึกว่ามีอะไรมากัดบริเวณนิ้วกลางขวา จึงเรียกให้สามีมาดูและมาพบว่าเป็นงูกะปะ ดังกล่าว 


นางแฉล้ม เล่าด้วยว่ายอมรับว่าเสียใจเพราะเพิ่งมาเก็บเป็นวันแรกโดนงูกัดทันที หลังจากนี้คงจะเข็ดไปอีกนานหรืออาจจะไม่ได้มาเก็บเห็ดอีกเลย


ขณะที่นายบัญชา ชื่นอุรา อายุ 50 ปี สามีผู้บาดเจ็บเล่าว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาไม่เคยคิดที่จะไปเก็บเห็ด แต่มาแปลกชวนตนไปเก็บเห็ดด้วย จึงขับรถไปส่งช่วงนั้นภรรยาบอกว่าไม่รู้ว่าอะไรกัด จึงหันไปดูจุดที่ภรรยาบอก แล้วเอาไม้เขี่ยดูพบเป็นงูกำลังฟักไข่อยู่ จึงเอาไม้ตีแล้วเอางูใส่ถุงติดไปด้วยเพื่อหมอจะได้วิเคราะห์ได้ถูก ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ตนรู้เส้นทางลงเขาได้เร็วต่างจากคนอื่นที่ขึ้นไปหาเห็ดแล้วส่วนใหญ่หลงทางกัน


ส่วนหนึ่งก็อยากเตือนคนเก็บเห็ดว่าช่วงนี้เป็นช่วงงูฟักไข่ มักจะอยู่ใต้ใบไม้แห้ง เมื่อเราไปเหยียบใส่ หรือเอามือไปใกล้ก็อาจจะถูกกัดได้ เท่าที่ทราบจากหน่วยกู้ชีพ วันนี้วันเดียว มีชาวบ้านโดนงูกัดแล้ว 3 ราย


สำหรับงูกะปะผู้มีความรู้ด้านนี้ตั้งฉายางูชนิดนี้ว่า”กับระเบิดชีวภาพ”เพราะชอบนอนขดเหมือนกับระเบิดจะไม่แสดงอาการเหมือนงูเห่าหรืองูจงอาง เป็นที่มีพิษร้ายแรง โดยจัดเป็น 1 ใน 7 งูพิษที่มีความสำคัญทางการแพทย์และพิษวิทยาของไทย เนื่องจากพิษมีผลต่อระบบเลือด ทำให้เกิดภาวะเลือดออกผิดปกติ เลือดไหลไม่หยุดบริเวณรอยเขี้ยว บวมอย่างรวดเร็ว และอาจเกิดเนื้อตายจนแผลเน่าเหม็น ซึ่งอาจนำไปสู่ความดันโลหิตต่ำและการเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

หน้าแรก » ภูมิภาค