วันที่ 13 ก.ย 68 มีชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์หลายอำเภอ ซึ่งได้พบโดรนบินอยู่บนน่านฟ้าของประเทศไทย โดยตอนแรกชาวบ้านคิดว่าไฟที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้าคือกลุ่มดาว แต่เมื่อสังเกตุแล้วกลับไม่ใช่ ไฟที่บินอยู่บนท้องฟ้า มีลักษณะกระพริบ และลอยเคลื่อนที่ขึ้นลง และเคลื่อนที่ไปหลายจุด

โดยชาวบ้านในพื้นที่อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์  ได้สังเกตเห็น แสงไฟที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ตั้งแต่เมื่อวาน (12 ก.ย 68)  เวลาตั้งแต่20.30น. ไปจนถึง03.00น. ของวันที่13 ก.ย.68 จึงได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาทางเพจกองทัพภาคที่สองได้ออกมาประกาศว่า ในขณะนี้ทางกัมพูชาได้ใช้โดรนบินรุกล้ำเข้ามายังน่านฟ้าของประเทศไทยจริง ช่วงประมาณ21.00 น. ของวันที่ 13 ได้พบเห็นแสงไฟลอยอยู่บนท้องฟ้าอีกครั้ง และมีลักษณะเหมือนครั้งแรกที่เจอในวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา สังเกตจากกล้องวงจรปิดพบแสงไฟที่รออยู่บนน่านฟ้า มีลักษณะเคลื่อนที่ขึ้นลง โดยเป็นภาพเมื่อเวลา 02.30น. วันที่ 13 กันยายน 2568

ต่อมาทางเพจกองทัพภาคที่สองได้ออกมาแถลงการณ์ว่า  ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 12 กันยายน 2568 (ณ เวลา 14.00 น.  ตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ตรวจพบโดรนบริเวณพื้นที่แนวชายแดน จำนวน 22 ครั้ง รวม 53 ลำ ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์

ถึงอย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังมีชาวบ้านหลายคนพบเห็นโดรนที่บินอยู่บนน่านฟ้าของประเทศไทยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่13 ก.ย.68  ซึ่งยังไม่ทราบจุดประสงค์ว่า โดรนที่พบเห็นมีจุดประสงค์อะไรในการบินมาสังเกตการณ์