ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำเหนือจากเขื่อนเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน ตำบลท่าซุง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายหมู่บ้าน ชาวบ้านต้องเร่งเคลื่อนย้ายสิ่งของ รถยนต์ และเครื่องมือการเกษตรไปไว้ในพื้นที่สูงหรือถนนที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านวัดราษฎรศรัทธาธรรม หมู่ 6 ตำบลท่าซุง ระดับน้ำได้ท่วมไร่นา บ้านเรือน และถนนสายหลัก บางจุดรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ชาวบ้านจำเป็นต้องใช้เรือในการเดินทางแทน

ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ปีนี้น้ำมาเร็วและสูงผิดปกติ โดยเฉพาะช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ระดับน้ำเพิ่มขึ้นกว่า 30 เซนติเมตร ทำให้บ้านเรือนและพื้นที่ลุ่มต่ำได้รับผลกระทบเสียหายต่อเนื่อง

ล่าสุด วันที่ 12 ก.ย. 2568 ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ C2 จังหวัดนครสวรรค์อยู่ที่ 2,101 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่กรมชลประทานระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,950 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี มีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานีรายงานว่า มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 108 ครัวเรือน ใน 14 หมู่บ้าน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลท่าซุง 28 ครัวเรือน ตำบลเกาะเทโพ 68 ครัวเรือน และตำบลน้ำซึม 12 ครัวเรือน

หน่วยงานในพื้นที่ทั้งจังหวัดอุทัยธานี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสาธารณสุข ได้เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยแจกถุงยังชีพ อาหาร ยา และเวชภัณฑ์ เคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง 3 ราย รวมทั้งนำเครื่องจักรกลลงพื้นที่กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ

ขณะเดียวกัน อบต.ท่าซุง และ อบต.เกาะเทโพ จัดเรือพายให้ชาวบ้านยืม พร้อมติดตั้งป้ายเตือน “น้ำท่วมทาง” ในจุดเสี่ยง พร้อมสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบราชการ

ด้านนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะตำบลหาดทนง เกาะเทโพ สะแกกรัง น้ำซึม และท่าซุง ให้ติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารทางราชการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง