เวลา 19.00 น. วันนี้ (15 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดหนองบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายวสันต์ ชิงชนะ (รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์) พร้อมภรรยา ร่วมสวดฟังพระอภิธรรมศพ นายเจษฎาพรรณ ต้นทอง โดยค่ำคืนนี้เป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนสุดท้าย พรุ่งนี้ (16 กันยายน 2568) เวลา 12.00 น. จะมีพิธีฌาปนกิจ ณ เมรุวัดหนองบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์

บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัยที่ครอบครัวได้สูญเสียคุณเจษฎาพรรณ ต้นทอง อายุ 43 ปี ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ครอบครัว ญาติพี่น้อง และชาวบ้านจำนวนมากต่างมาร่วมงานและฟังพระสวดอภิธรรมเป็นคืนสุดท้าย ต่อมา พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ส่งตัวแทนทหารมาวางพวงหรีดเพื่อแสดงความเสียใจกับครอบครัว พร้อมฝากคลิปขอบคุณและให้กำลังใจ ที่คุณเจษฎาพรรณสละเวลาและแรงกายช่วยเหลือทหารแนวหน้าตลอดการสู้รบ

คุณเจษฎาพรรณ เป็นชาวสุรินทร์ มีธุรกิจในตัวเมืองสุรินทร์ ตลอดช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เขามุ่งมั่นด้วยความรักชาติ เดินทางไปยัง อ.พนมดงรัก แทบทุกวัน เพื่อสนับสนุนอาหารและของใช้ให้แก่ทหารแนวหน้า โดยไม่เคยสนใจว่าใครจะเห็นหรือไม่

พลโท บุญสิน พาดกลาง กล่าวว่า “ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวคุณเจษฎาพรรณ ต้นทอง และญาติพี่น้องทุกท่าน คุณเจษเป็นจิตอาสาผู้เสียสละ ได้นำเวลาส่วนตัวมาจัดตั้งโรงครัวเลี้ยงน้องๆ ทหารแนวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา ต้องขอขอบคุณในความเป็นจิตอาสาของท่าน ซึ่งได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันในห้วงเวลาการทำความดี ในนามกองทัพภาคที่ 2 ขอยกย่องและไว้อาลัยต่อคุณงามความดีของคุณเจษ ที่เสียสละเพื่อบ้านเมืองและประเทศชาติ ขอให้ดวงวิญญาณท่านไปสู่สุคติ อยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า”

ด้านคุณแม่ของผู้ตาย เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อทราบข่าวลูกชายเสียชีวิตที่ชายแดนเวลาประมาณเที่ยงของวันที่ 12 ก.ย. ตนถึงกับเป็นลม หมอทหารได้ส่งลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก ก่อนส่งต่อมายังโรงพยาบาลสุรินทร์ ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกถึงกับช็อกหมดสติ ลูกชายเป็นคนดี รักการช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด ตนสงสารลูกชายมากเพราะเขายังมีลูกเล็กอยู่