วันจันทร์ ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568 01:58 น.

ภูมิภาค

น้ำเจ้าพระยาเพิ่ม เตือนชาวชัยนาท–สิงห์บุรี–อยุธยา เตรียมรับมือ

วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568, 10.54 น.

วันที่ 16 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวรพจน์ เพชรนรชาติ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 7 ถึงผู้ว่าราชการ 11 จังหวัดพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร เนื่องจากอิทธิพลของฝนที่ตกหนักต่อเนื่องบริเวณตอนบนด้านท้ายอ่างเก็บน้ำ ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น

จากการคาดการณ์โดยกรมชลประทาน ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,200–2,300 ลบ.ม./วินาที และคาดการณ์ว่าแม่น้ำสะแกกรัง ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ Ct.19 จ.อุทัยธานี และลำน้ำสาขารวมอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 200–250 ลบ.ม./วินาที โดยใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้ แบ่งรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวมจำนวน 400–420 ลบ.ม./วินาที

 

 

กรมชลประทานดำเนินการภายใต้เกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา โดยประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อนุญาตให้กรมชลประทานปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจากเดิมไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที เป็นไม่เกิน 2,500 ลบ.ม./วินาที แบบขั้นบันได พร้อมบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม จะเริ่มลดปริมาณการระบายลงตามลำดับ

ปริมาณน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 0.10–0.30 เมตร พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาย ได้แก่ จังหวัดชัยนาท ต.โพนางดำออก และบ้านท่าทราย อ.สรรพยา จังหวัดสิงห์บุรี วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี อ.พรหมบุรี และวัดเสือข้าม อ.เมืองสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง วัดไชโย ต.เทวราช อ.ไชโย อ.ป่าโมก รวมทั้งคลองโผงเผง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ รวมถึงพื้นที่แม่น้ำน้อย สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ และคลองบางบาล

ปัจจุบันที่สถานีวัดน้ำ C. อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,250 ลบ.ม./วินาที ส่วนเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อน 17.19 เมตร/รทก. และด้านท้ายเขื่อน 14.68 เมตร/รทก. ระดับน้ำห่างจากตลิ่ง 1.66 เมตร ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำ 2,000 ลบ.ม./วินาที พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 120 หลังคาเรือน
หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นจนทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,500 ลบ.ม./วินาที จะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ

ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ กรมชลประทานได้แจ้งเตือน 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

หน้าแรก » ภูมิภาค