วันอาทิตย์ ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2568 01:41 น.

ภูมิภาค

ศุลกากรภาค 2 จัดพิธีทำลายของกลางคดีถึงที่สิ้นสุดล็อตใหญ่ มูลค่าประมาณ 24 ล้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.00 น.

ที่อาคารตรวจสอบสินค้าด่านศุลกากรนครพนม นายธีรัชย์  อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานพิธีทำลายของกลางที่คดีถึงที่สิ้นสุดแล้วของด่านศุลกากร ในเขตท้องที่ที่รับผิดชอบของสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 โดยของกลางที่นำมาทำลายได้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายศุลกากร และมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุดแล้ว จำนวน 33 คดี รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 672,071 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ประมาณ 24 ล้านบาท

1.เครื่องเล่นเกม (ตู้คีบตุ๊กตา) จำนวน 14 ตู้  เป็นสินค้าต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์  2.เครื่องเสียง อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์ เครื่องแต่งกาย กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า และอื่น ๆ จำนวน 7,252 ชิ้น ซึ่งเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ละเมิดเครื่องหมายทางการค้า พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า กระทรวงพาณิชย์  3.สินค้าไม่มีใบอนุญาตสรรพสามิต ได้แก่ บุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 621,600 มวน ไพ่พลาสติก จำนวน 432 สำรับ 4.สินค้าไม่มีใบอนุญาต อย. อาหารเสริม ขนม และ ถุงยางอนามัย รวม 41,670 ชิ้น 5.วัตถุลามก 837 ชิ้น  และ 6.สินค้าชนิดอื่น ๆ อาทิ กาต้มน้ำไฟฟ้า ที่วางโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น จำนวน 266 ชิ้น

ซึ่งการทำลายนั้นกระทำต่อหน้าสักขีพยานหลายแขนง โดยนำไปทำลายด้วยวิธีบด ตัด ให้เสื่อมสภาพ เพื่อให้ไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก หลังจากนั้นเทศบาลเมืองนครพนม ได้ให้ความอนุเคราะห์นำไปกำจัดให้ถูกต้องตามหลักวิชาการต่อไป เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของนายธีรัชย์  อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ให้เข้มงวดในการป้องกันและปราบปราม สินค้าลักลอบหนีศุลกากร หลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ของต้องห้าม หรือของต้องกำกัด และสินค้าที่ไม่ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง 

โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 (1 ตุลาคม 2567 ถึง 15 กันยายน 2568)  สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 โดยการสั่งการของ นางกิจจาลักษณ์  ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และ นางสาวลลิตา อรรถพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ได้มอบหมายให้ นายสุรัตน์  เรืองประยูร ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร และ นายสมพล  ไทยจงรักษ์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับด่านศุลกากรในเขตท้องที่ที่รับผิดชอบของสำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 และหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 2 ส่วนสืบสวนปราบปราม 1 กองสืบสวนและปราบปราม โดยสามารถจับกุมและตรวจยึดของกลาง อาทิ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ละเมิดเครื่องหมายทางการค้า เครื่องเสียง อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์ เครื่องแต่งกาย กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า สินค้าต้องห้ามต้องกำกัด บุหรี่ต่างประเทศ ตู้คีบตุ๊กตา ไพ่พลาสติก สินค้าไม่มีใบอนุญาต อย. วัตถุลามก และอื่น ๆ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 33 คดี รวมทั้งสิ้น 672,071 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ประมาณ 24 ล้านบาท  ซึ่งของกลางดังกล่าวต้องจำหน่ายโดยวิธีการทำลาย
 

หน้าแรก » ภูมิภาค