วันพฤหัสบดี ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:11 น.

ภูมิภาค

รองผู้ว่าฯ อุบลฯ แจงชายแดนไทย–กัมพูชา ยังปกติ วอนประชาชนอย่าตื่นข่าวลือ

วันจันทร์ ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2568, 16.50 น.

วันนี้ (29 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภพ ภูสมปอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรณีภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ จังหวัดอุบลราชธานี ปี 2568 ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที หากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา และเพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่เขตชายแดนอำเภอน้ำยืนอย่างใกล้ชิด หากมีเหตุจะได้ดำเนินการตามแผนได้ทันที

 

 

สำหรับเหตุการณ์ที่ช่องอานม้า เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ฝ่ายกัมพูชาได้สร้างสถานการณ์เพื่อนำไปใช้อ้างต่อผู้สังเกตการณ์ และเวทีโลกเกี่ยวกับความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา ขณะนี้สถานการณ์โดยทั่วไปยังปกติ โดยทางอำเภอได้ประสานงานกับหน่วยทหารกองกำลังอย่างใกล้ชิด

สถานการณ์โดยรวมยังไม่ได้สั่งอพยพประชาชน แต่หากประชาชนวิตกกังวลก็สามารถไปอยู่ในศูนย์พักพิงหรือพื้นที่ปลอดภัยได้ คาดว่ากองกำลังจากภายนอกประเทศต้องการยั่วยุให้เกิดการตอบโต้หรือปะทะ เพื่อให้มีภาพไปใช้เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ของฝ่ายตนโดยไม่คำนึงถึงข้อตกลงใดๆ

 

 

ทั้งนี้ จังหวัดอุบลราชธานีได้เตรียมพร้อมพื้นที่ส่วนหลัง โดยตั้งศูนย์พักพิงที่อำเภอเดชอุดม จำนวน 98 ศูนย์ ประกอบด้วยศูนย์พักพิงประชาชนทั่วไป 95 ศูนย์ฯ และศูนย์พักพิงกลุ่มเปราะบางอีก 3 ศูนย์ฯ ปัจจุบันมีประชาชนบางส่วนอพยพจาก 3 ตำบลของอำเภอน้ำยืน ได้แก่ ต.โซง ต.โดมประดิษฐ์ และต.สีวิเชียร เข้าศูนย์พักพิงในอำเภอเดชอุดมแล้ว 25 ศูนย์ และได้ดำเนินการดูแลประชาชน โดยจัดที่พัก เครื่องนอน และอาหารครบทั้ง 3 มื้อ

 

 

จังหวัดอุบลราชธานีได้สื่อสารภายในทั้ง 4 อำเภอชายแดน ได้แก่ อ.น้ำยืน อ.น้ำขุ่น อ.นาจะหลวย และอ.บุณฑริก ผ่านช่องทางไลน์ หอกระจายข่าวหมู่บ้าน และสื่อบุคคล เช่น ชรบ. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแจ้งสถานการณ์ให้ประชาชนทราบ ไม่ให้เกิดความตื่นตระหนกเกินไป ขณะเดียวกัน นายภพ ภูสมปอง รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้ขอให้หน่วยงานราชการระมัดระวังเรื่องการประชาสัมพันธ์ ไม่สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 ติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร อย่าหลงเชื่อข่าวลือ โดยติดตามเฉพาะช่องทางทางการของหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดหรือการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ตรงข้อเท็จจริง

 

หน้าแรก » ภูมิภาค