น้องข้าวต้ม ลูกช้างป่าพลัดหลง ทีมสัตวแพทย์ให้ฝึกหัดยืนและเดินโดยใช้นั่งร้านและอุปกรณ์พยุงตัว เริ่มมีกำลังในการถีบตัวเองเพื่อให้ยืนขึ้นได้บ่อยครั้งมากขึ้น โดยทำการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดร่วมกับเครื่องอัลตราซาวด์ อาการโดยรวมดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 30 กันยายน 2568 ที่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ผศ.สพ.ญ.ดร.สุภาเพ็ญ ศรีพิบูลย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน, สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก รวมถึง น.สพ.นภัส เสวกวรรณ นายสัตวแพทย์ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมกันตรวจอาการ “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าที่ถูกโขลงแม่ช้างทอดทิ้ง เนื่องจากไม่สามารถยืนและเดินได้ กระทั่งมีชาวบ้านพบในป่า อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และส่งตัวมาดูแลรักษาที่ศูนย์ดังกล่าว

ทีมสัตวแพทย์ได้ฝึกให้น้องข้าวต้มยืนและเดินโดยใช้นั่งร้านและอุปกรณ์พยุงตัว พบว่ายังคงยืนได้ไม่นานนัก จึงให้เจ้าหน้าที่ช่วยพยุงและพาเดินไปก่อน พร้อมติดตามอาการอย่างใกล้ชิด โดยได้ตรวจร่างกายด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ ตรวจอวัยวะภายใน และทำกายภาพบำบัดยืดเหยียดข้อต่อขาหน้าทั้งสองข้าง ข้างละ 10 ครั้ง รวมถึงพันล็อคข้อขาหน้าเช้า–เย็น ตรวจตาพบแผลตื้น 1 จุดบนกระจกตาข้างขวา

ขณะนี้ลูกช้างป่าน้องข้าวต้มกินนม กินน้ำ ขับถ่ายได้ อุจจาระเหลวสีเขียวขี้ม้าอ่อน ปัสสาวะสีใส แผลบริเวณสะดือมีหนองลดลง ส่วนเล็บที่มีหนองยังต้องทำความสะอาดทุกวัน โดยน้องข้าวต้มเริ่มมีกำลังถีบตัวเองให้ยืนขึ้นบ่อยขึ้น ขณะเดินมีสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ช่วยจับพยุงและยืดเหยียดขา

ได้มีการส่งอุจจาระและเลือดไปตรวจที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน พร้อมให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดพบว่าปกติ ทีมสัตวแพทย์เตรียมปรับปรุงที่นอนโดยใช้ยางพาราขนาดใหญ่ร่วมกับที่นอนลม เพื่อลดและป้องกันแผลกดทับ เพื่อให้น้องข้าวต้มมีสุขภาพแข็งแรงต่อไป