วันอาทิตย์ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2568 06:39 น.

ภูมิภาค

รมว.พลังงานลงพื้นที่ชายแดน ติดตามเยียวยาปั๊มน้ำมันบ้านผือ สั่งติดโซลาร์เซลล์ 100 จุดช่วยทหาร

วันเสาร์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 16.30 น.

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ในเขตชายแดนไทย–กัมพูชา ที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้เข้าตรวจเยี่ยมปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ ซึ่งเป็นจุดได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะบริเวณชายแดน หลังมี ระเบิดจากฝั่งกัมพูชาตกใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนเกิดไฟไหม้รุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 8 ราย ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างใหม่ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ที่จะถึงนี้ โดยนางกมลรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ ได้ยื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อให้ภาครัฐติดตามการเยียวยาอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากได้รับผลกระทบอย่างหนักทั้งด้านทรัพย์สินและรายได้จากการหยุดดำเนินกิจการ

นายอรรถพล กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้นอกจากติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากเหตุปะทะแล้ว ยังได้เข้าเยี่ยม ฐานปฏิบัติการของทหารในพื้นที่กันทรลักษ์ เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการ พบว่าหลายฐานขาดแคลนไฟฟ้า เนื่องจากสายส่งเข้าไม่ถึง กระทรวงพลังงานจึงเตรียมเร่งติดตั้ง แผงโซลาร์เซลล์จำนวน 100 จุด โดยมอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตประสานกับหน่วยทหารเพื่อดำเนินการทันที ส่วนจุดอื่น ๆ จะทยอยดำเนินการต่อไป

สำหรับปั๊ม ปตท. บ้านผือ ที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้บริหารร้าน 7-Eleven ได้เข้ามาช่วยเหลือปรับปรุงโครงสร้างร้านและสถานีบริการ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ทันตามกำหนด ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีพลังงานได้มอบหมายให้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประสานกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อดำเนินการช่วยเหลือด้านเยียวยาเพิ่มเติม

ด้านเจ้าของปั๊ม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับเงินช่วยเหลือจากภาคเอกชนแล้วบางส่วน โดย ทิพยประกันภัยได้มอบเงินชดเชยจำนวน 1,000,000 บาท ส่วนความเสียหายทั้งหมดของตัวปั๊มอยู่ที่ราว 7,000,000 บาท และร้านค้าภายในปั๊มอีกประมาณ 2,300,000 บาท ขณะที่การซ่อมแซมโครงสร้างหลัก ปตท.จะเข้ามาดำเนินการ ส่วนภายในร้านเป็นหน้าที่ของซีพี ซึ่งยังเหลือบางส่วนที่ต้องขอความเห็นใจจากภาครัฐช่วยเหลือเพิ่มเติม

“สิ่งที่อยากเรียกร้องที่สุดคือ การสื่อสารที่ชัดเจนเมื่อเกิดเหตุการณ์ชายแดน ว่าจะต้องอพยพหรือไม่อพยพ ไม่ใช่ต้องรอเสียงปืนใหญ่หรือระเบิดมาถึงก่อนถึงจะขยับ พวกเราอยู่ในโซนเสี่ยง ต้องมีมาตรการแจ้งเตือนและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยและไม่ตื่นตระหนกเกินไป” เจ้าของปั๊ม กล่าว

พร้อมระบุว่า เหตุปะทะที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะธุรกิจชายแดนที่ต้องหยุดชะงัก ชาวบ้านไม่กล้าออกไปทำงานทำนา กรีดยาง เพราะต้องเตรียมอพยพอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในพื้นที่ลดลง และธุรกิจใหม่ ๆ ไม่กล้าเข้ามาลงทุน

หน้าแรก » ภูมิภาค