วันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่รอบกองซากปรักหักพังพระธาตุโนนตาล หมู่ 9 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้ประกอบพิธีขอขมากรรมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังพระธาตุพังถล่มลงมาทั้งองค์เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีพระครูสิริบุญญโสภณ เจ้าคณะอำเภอท่าอุเทน / เจ้าอาวาสวัดกุญชร ต.โนนตาล และ พระครูพิพัฒน์สิริโพธิ หรือยาคูหลอด เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี อ.ท่าอุเทน / ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

โดยมีชาวบ้านจำนวนมาก ได้นำพานบายศรี หรือขันหมากเบ็ง ดอกไม้ ธูป เทียน เข้าร่วมพิธีกรรมดังกล่าว ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปราย คล้ายเทวดาเบื้องบนรับรู้จึงประพรมน้ำมนต์ลงมาให้ หลายคนเชื่อเป็นสิ่งอัศจรรย์ที่บังเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งในรอบ 3 วันนับแต่วันที่พระธาตุล้ม

กล่าวคือวันที่ 12 ตุลาคม 68 เวลา 09.41 น. จะต้องมีช่างเชื่อเหล็กเข้ามาทำงานรอบองค์พระธาตุ แต่เหมือนท่านดลใจให้ช่างลาหยุดงานกันหมด และพระธาตุก็หักโค่นลงมา ถ้ามีคนทำงานจะต้องมีคนเสียชีวิตอยู่ใต้ซากไม่น้อยกว่า 10 คน ถือเป็นอัศจรรย์ครั้งแรก และวันประกอบพิธีขอขมากรรม ฝนก็ตกโปรยปรายชุ่มฉ่ำคล้ายเทวดาพรมน้ำมนต์ ทั้งที่รอบนอกมีฝนตกฟ้าคะนองแรงมาก จึงนับเป็นอัศจรรย์ครั้งที่สอง

โดยก่อนพิธีจะเริ่ม พระครูพิพัฒน์สิริโพธิ หรือยาคูหลอด นายรัชพล นวภัทรเมธากุล ปลัดอาวุโส นายนิกร บุตรโคตร์ กำนันตำบลโนนตาล นายสันติชัย ศิริญาติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.โนนตาล พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ได้เดินสำรวจพื้นที่รอบองค์พระธาตุ เพื่อเตรียมใช้เป็นจุดนำเศษอิฐที่พังทลายมาเก็บรักษาไว้ โดยจะเลือกอิฐเก่าที่สามารถนำกลับไปสร้างใหม่ได้ ส่วนเศษอิฐเศษปูนที่นำกลับไปใช้ไม่ได้ จะสร้างสถูปครอบเศษอิฐไว้เหมือนพระธาตุพนมองค์เดิมที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

ด้าน นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน ได้กล่าวถึงในการสร้างพระธาตุองค์ใหม่แทนองค์เดิมที่พังทลายน ว่า ทางสำนักศิลปากรที่ 9 อุบลราชธานี ได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวถึงอธิบดีกรมศิลปากร และนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมก็ติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะพระธาตุโนนตาลได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของแผ่นดินเมื่อปี 2560 คาดว่าอาจจะมีการของบกลางนำมาก่อสร้าง

ส่วนการขนย้ายเศษอิฐออกจากบริเวณพระธาตุโนนตาลถล่ม จะใช้เครื่องจักรหยิบขึ้นมาทีละชิ้น เพราะอาจมีวัตถุโบราณหลงเหลืออยู่ในเศษซาก และจะใช้แรงงานคนโกยผงปูน นำไปเทบริเวณที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งระหว่างที่ยังไม่มีการขนย้าย ทางฝ่ายปกครองอำเภอท่าอุเทน พร้อมตำรวจ สภ.ท่าอุเทน จะเข้าเวรยามรักษาความปลอดภัยตลอดทั้งคืน

ทั้งนี้พิธีขอขมากรรม คือการทำพิธีเพื่อขอขมาลาโทษต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา เจ้ากรรมนายเวร หรือผู้มีพระคุณที่เคยล่วงเกินทั้งกาย วาจา ใจ โดยเชื่อว่าจะช่วยชำระล้างกรรมเก่าที่ติดตัวมา เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น ปัญหาที่ติดขัดคลี่คลายลง และเปิดรับสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เป็นพิธีที่นิยมทำกลางแจ้งหรือบริเวณที่สงบร่มเย็น