วันที่ 16 ต.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “ คนละครึ่งพลัส” ของผู้ประกอบการ ร้านค้า ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยมี ผู้ประกอบการ ร้านค้า ทั้งรายเก่าและรายใหม่ ตอบรับโครงการ เป็นจำนวนมาก  

ทั้งนี้ นางนิภาพรรณ เหล่าแค คลังจังหวัดอำนาจเจริญ นำเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่แจกเอกสาร ให้คำแนะนำในการสมัครเข้าร่วมโครงการ “ คนละครึ่งพลัส”ของรัฐบาล แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งผู้ประกอบการที่ยังไม่เข้าร่วมต่างตอบรับตกลงและเต็มใจที่จะเข้าร่วม เพราะมองว่า เป็นนโยบายที่ดีของรัฐบาล ที่จะส่งผลต่อยอดจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับตน โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งพลัสในครั้งนี้ มีการขยายเป้าหมายในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 16 ปี สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้แล้ว น่าจะส่งผลให้กำลังซื้อขยายไปในกลุ่มนี้เพิ่มอีกทางหนึ่ง เป็นการช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน และยังเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้าเล็กๆ ร้านค้าตามชุมชน อีกด้วย

ส่วนบรรยากาศที่ธนาคารกรุงไทย สาขา อำนาจเจริญ พบว่า มีผู้ประกอบการรายใหม่ ทยอยมาเข้าคิวลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารคอยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ และไม่เพียงแต่ผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมลงทะเบียนเท่านั้น โดยยังพบว่ามีประชาชนทั่วไป เตรียมพร้อมจะลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ระหว่างวันที่ 20 – 26 ตุลาคม พ.ศ.2568 ได้เดินทางมาเตรียมความพร้อมและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัว” ที่ธนาคารฯ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารมีผู้คนจำนวนมาก แน่นเต็มต่อแถวยาวเหยียด ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนัก

นางน้อย ใจดี อายุ 65 ปี ชาวอำนาจเจริญ เข้าคิวรอยืนยันตัวตน กล่าวว่า บุตรซื้อโทรศัพท์มือถือให้เมื่อวันก่อน เพื่อจะได้เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งพลัส ของรัฐบาล หลานเข้าแอปเป๋าตัวให้แล้ว แต่เข้าแอปธนาคารไม่ได้ ต้องเดินทางมายืนยันตัวตนที่ธนาคาร หากทำเสร็จ รอสมัครลงทะเบียนในวันที่ 20 – 26 ต.ค. 68 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเข้าร่วมโครงการเป็นครั้งแรก และ รับเงินผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาทเท่านั้น ส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ได้ทำ เพราะทำไม่เป็น นางน้อย กล่าว

ส่วนนายทิน อายุ 68 ปี ชาวเมืองอำนาจเจริญ มีอาชีพเก็บของเก่าขาย กล่าวว่า รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล คือ เงินผู้สูงอายุ 600 บาท/เดือน นอกนั้น ไม่ได้ร่วมโครงการอะไรกับรัฐบาลเลย ซึ่งตนอยากเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส แต่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ(สมาร์ทโฟน) เพราะไม่มีเงินซื้อโทรศัพท์มือถือ ลำพังเก็บของเก่าขายได้เงินไม่กี่บาท เพียงเพื่อซื้อข้าวกินไปวันๆเท่านั้น  อยากให้รัฐบาลหาวิธี ช่วยให้คนไม่มีโทรศัพท์มือถือได้ร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสด้วย นายทิน กล่าว.