วันอาทิตย์ ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:36 น.

ภูมิภาค

ท้ายเขื่อนท่วมซ้ำอีกรอบ! เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มระบายรายวันน้ำเพิ่มอีก 24 ซม.

วันเสาร์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 16.27 น.

วันที่ 18 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มวลน้ำทางภาคเหนือไหลมาสมทบกับฝนสะสมในพื้นที่ ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา ได้มีประกาศเตือนจะมีการทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00–15.00 น. ของวันนี้ จากเดิม 2,400 ลบ.ม./วินาที มาเป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า

ปัจจุบัน สถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,845 ลบ.ม./วินาที ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.77 ม.รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.94 เมตร/รทก. เพิ่มจากเดิม 24 ซม. ระดับน้ำห่างจากตลิ่ง 40 ซม. และเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อนอยู่ที่ 2,500 ลบ.ม./วินาที นอกจากนี้ ทางกรมชลประทานยังได้มีการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ทางด้านท้ายน้ำ

พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการปรับเพิ่มการระบายน้ำ ได้แก่ คลองโผงเผง และวัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คลองบางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา / ต.ลาดชิด และต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี อ.พรหมบุรี และวัดเสือข้าม จ.สิงห์บุรี ต.โพนางดำ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท

นายวิทยา ชพานนท์ รองผู้ว่าฯชัยนาท ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯชัยนาท เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท ได้รับแจ้งจากสำนักงานชลประทานที่ 12  ให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หลังสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำเหนือเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เพื่อควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไม่ให้เกินอัตรา 2,500 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทานจึงมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ชะลอน้ำไว้เป็นการชั่วคราว ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้นจากปัจจุบัน ประมาณ 0.47 เมตร โดยจะยกระดับขึ้นเท่าที่จำเป็น และรักษาระดับไม่ให้เกิน +17.00 ม.รทก.

ด้าน ชาวบ้านตำบลโพนางดำออก อำเภอสรรพยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กำลังเผชิญกับน้ำท่วมซ้ำซ้อนอย่างหนัก เพราะสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ทุกหน่วยงานบูรณาการนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกแล้วเกือบ100% ชาวบ้านเริ่มทยอยขนของกลับบ้าน แต่ก็ต้องกลับมาอยู่ริมถนนเหมือนเดิม เพราะเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มน้ำเอ่อเข้าท่วมชุมชนท่วมอีกเช่นเคย

ด้านนายทวี ขำมั่น อายุ 72 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า อยากให้กรมชลประทานปล่อยน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไปเลยที่ระดับ 2,000-3,000 ลบ.ม./วินาที โดยให้เหตุผลว่า การปล่อยขยักขย่อนและการเพิ่มการระบายน้ำในช่วงกลางคืนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านมากกว่า เพราะพอระดับน้ำลดลง เทศบาลตั้งเครื่องสูบน้ำออกจนคลี่คลาย ชาวบ้านก็ขนของกลับเข้าบ้าน แต่กลับต้องมาถูกน้ำท่วมซ้ำแบบนี้ จะระบายจะปล่อยน้ำก็ให้สุดไปเลย เพราะน้ำท่วมอยู่แล้ว ใครจะด่าก็ช่างมัน ปล่อยให้มันหมดๆไป ชาวบ้านจะไปกลับบ้านไม่ต้องนอนริมถนนชาวบ้านคุ้นชินกับน้ำท่วมมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเชื่อว่าการปล่อยน้ำไปตามธรรมชาติจะทำให้ น้ำมาอย่างช้า ๆ และชาวบ้านสามารถ เก็บของได้ทัน ต่างจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาที่ คันกั้นน้ำพังมาอย่างฉับพลัน ทำให้ไม่ทันได้เตรียมตัว
 

หน้าแรก » ภูมิภาค