วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568 12:17 น.

ภูมิภาค

จับคนจีนพกบัตรATM 2,057 ใบ โยงฟอกเงินข้ามชาติ

วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 13.41 น.

เวลา 11.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่ร้านกาแฟ “ปันรักษ์” ภายใน สภ.เมืองเชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชลทฤษ ชัชวาลย์ รองผู้บังคับการฯ, พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.สภ.เมืองเชียงราย, พ.ต.อ.อนุพันธ์ กันถารัตน์ ผกก.สภ.เชียงแสน, พ.ต.ท.ธนวินท์ พวงมะลิ สว.ตม.เชียงราย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายหู เฮ่าเจี๋ย อายุ 35 ปี ชาวมณฑลหูเป่ย์ สัญชาติจีน

ของกลางประกอบด้วยโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง (ไอโฟน 14 สีน้ำเงิน และวีโว่สีฟ้า), โน้ตบุ๊กยี่ห้อเลอโนโว สีเงิน, บัตรเอทีเอ็มรวม 2,057 ใบ, เงินสด 537,900 บาท และเอกสารบัญชีการเงินหลายรายการ

 

 

การจับกุมเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.04 น. วันที่ 23 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ออกตรวจพื้นที่หน้าธนาคารกรุงเทพ ถนนธนาลัย ตำบลเวียง พบชายชาวจีนมีท่าทางพิรุธ จึงเรียกตรวจ แต่ผู้ต้องหาพยายามหลบหนี ก่อนถูกควบคุมตัวไว้ ตรวจค้นพบหลักฐานหลายรายการ รวมถึงบัตรเอทีเอ็มจำนวนมากจากหลายธนาคาร

จากการขยายผลตรวจค้นห้องพัก พบของกลางเพิ่มเติมจำนวนมาก นายหูให้การว่า ได้รับคำสั่งจากชายชาวจีนผ่านแอปพลิเคชัน “Lark” ให้ทำหน้าที่กดและโอนเงิน ซึ่งเข้าข่ายเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “มีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบไว้ในครอบครองเพื่อนำออกใช้ อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝากหรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ส่วนอีกคดี ตำรวจ สภ.เชียงแสน จับกุม นายรุ่งโรจน์ อายุ 35 ปี ชาวอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคาร 34 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 38 ใบ และซิมการ์ด 39 ซิม หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบส่งบัญชีและบัตรผ่านบริษัทขนส่งเอกชน เพื่อส่งต่อไปประเทศลาว เจ้าหน้าที่ขยายผลตรวจยึดพัสดุเพิ่มเติมอีกหลายรายการ พบว่าเป็นเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม “จีนเทา” ใช้บัญชีและบัตรเหล่านี้ในขบวนการสแกมเมอร์หลอกลวงประชาชน

พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ระบุว่า การจับกุมทั้งสองคดีสะท้อนให้เห็นถึงขบวนการข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายกว้างขวางในพื้นที่ชายแดน และยกย่องการทำงานของตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย และ สภ.เชียงแสน ที่สามารถขยายผลจนจับกุมผู้กระทำผิดได้ พร้อมเร่งดำเนินคดีเพื่อ ตัดวงจรฟอกเงินและสแกมเมอร์ข้ามชาติ

“เหตุการณ์นี้ยังเป็นบทเรียนให้ประชาชนทั่วประเทศตระหนักถึงความเสี่ยงจากการหลอกลวงทางออนไลน์ ทั้งทาง SMS และโซเชียลมีเดีย จึงต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันความรู้เพื่อป้องกันตนเอง” ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายกล่าว

 

หน้าแรก » ภูมิภาค

Top 5 ข่าวภูมิภาค