วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568 03:41 น.

ภูมิภาค

"ธรรมนัส" ลงพื้นที่ช่วยเหลือเกษตรกรหลังอุทกภัยจังหวัดอุตรดิตถ์

วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 19.25 น.

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 25 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ณ สะพานน้ำ กม.14+200 ตำบลผักขวง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมพบปะเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค และแนวทางการพัฒนาด้านการเกษตร ตลอดจนช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย โดยมีนายวารุจ ศิริวัฒน์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุตรดิตถ์  นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่น และเกษตรกรเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ร้อยเอก ธรรมนัส ได้ขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่บริเวณงานยืนสงบนิ่งร่วมแสดงความอาลัย และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต เป็นเวลา 1 นาที

ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและน้ำป่าไหลหลากในหลายอำเภอ ส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตรและความเป็นอยู่ของประชาชน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงให้ความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำ การฟื้นฟูพื้นที่เกษตรที่เสียหาย รวมถึงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน ภายใต้นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย

ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงฯ มุ่งดำเนินงานตามนโยบายหลัก 9 ด้าน อาทิ การเร่งรัดการจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกร การบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร การยกระดับสินค้าเกษตร การส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน และการสร้างโอกาสทางการตลาด เพื่อให้เกษตรกรไทยมีรายได้มั่นคงและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รายงานภาพรวมความเสียหายของอุทกภัยที่ทำให้เกิดให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายอำเภอ รวม 7 อำเภอ 50 ตำบล 316 หมู่บ้าน มีครัวเรือนประสบภัยกว่า 12,000 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายกว่า 400 หลัง ถนน วัด โรงเรียน และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างกว้างขวางกว่า 54,000 ไร่

โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลผักขวง อำเภอทองแสนขัน ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำหลาก ทำให้ สะพานส่งน้ำคลองสายใหญ่ กม.14+200 ชำรุดเสียหาย จนไม่สามารถส่งน้ำให้เกษตรกรได้ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชลประทานกว่า 10,000 ไร่ เกษตรกรจำนวนมากขาดแหล่งน้ำสำหรับทำการเพาะปลูก

นายวรพจน์ เพชรนรชาติ รองอธิบดีกรมชลประทานได้รายงานข้อมูลการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยร้อยเอก ธรรมนัส ได้สั่งการกรมชลประทานให้ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลหนักเข้าดำเนินการฟื้นฟูและบรรเทาผลกระทบทันที เร่งขุดลอกตะกอนและวัชพืชอุดตันตามคลองส่งน้ำ ทำความสะอาดลำคลอง และซ่อมแซมสะพานส่งน้ำ กม.14+200  ตลอดจนเพิ่มเครื่องสูบน้ำจำนวน 3 เครื่อง โดยในวันนี้ได้ให้เกียรติกดปุ่มเเปิดแผงเครื่องคุมเครื่องสูบน้ำในงานเพื่อบรรเทาปัญหาภาคการเกษตรที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรในพื้นที่ ตลอดจนสั่งการให้เร่งวางแผนระยะยาวต่อไปอีกด้วย

ร้อยเอก ธรรมนัส ได้ยังมอบถุงยังชีพภายใต้มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ปัจจัยการผลิตด้านการเกษตร แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยตลอดจนรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นแนวทางกำหนดนโยบายและมาตรการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาราคาข้าว โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับภาคการเกษตรของไทย

ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอขอบคุณเกษตรกรและทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมขับเคลื่อนงานตามนโยบายและลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้เกษตรกรไทยเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”
 

หน้าแรก » ภูมิภาค