ภูมิภาค
อดีตครูบ้านเชียง เล่าความหลัง 53 ปี ในหลวง ร.9-พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จทอดพระเนตรหลุมขุดค้นแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
วันที่ 26 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จสวรรคต สถานที่อีกแห่งคือแหล่งมรดกโลกบ้านเชียง ตั้งอยู่ที่บ้านเชียง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จทอดพระเนตรดูการขุด ย้อนไปเมื่อ 53 ปีที่แล้ว บ่าย 2 โมงของวันที่ 20 มีนาคา 2515 ท่ามกลางเปลวแดดอันร้อนแรง เสียงเฮลิคอปเตอร์ดังอยู่เหนือหมู่บ้านบ้านเชียง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯเป็นการส่วนพระองค์ โดยมิได้มีหมายกำหนดการมาก่อน เพื่อทอดพระเนตรแหล่งขุดค้นโบราณวัตถุ ที่วัดโพธิ์ศรีใน ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังจากที่พระองค์ท่านทรงทราบข่าวว่ามีการขุดค้นพบโบราณวัตถุที่นี่เป็นจำนวนมาก โดยทั้งสองพระองค์ได้เสด็จหลุมขุดค้นที่วัดโพธิ์ศรีในและพื้นที่บ้านของนายพจน์ มนตรีพิทักษ์ ชาวบ้านเชียง โดยครั้งนั้น ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสถามเจ้าหน้าที่ ว่า “ที่ตั้งใจมาดูอยากจะเห็นสิ่งต่างๆ อยู่ในสภาพเดิมอย่างนี้ ทำไมถึงพบหลุมฝังศพและเครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสี มากที่นี่” เมื่อทอดพระเนตรดูโครงกระดูกโบราณด้วยความสนพระทัย จึงมีพระราชดำรัส ต่อว่า “กระดูกนี้เคยใช้ในการพิสูจน์หาอายุได้หรือไม่” ซึ่ง ศ.นพ.สุด แสงวิเชียร ได้กราบบังคมทูล ว่า “การหาอายุกระดูกในต่างประเทศเคยกระทำกัน แต่ประเทศเรายังไม่เคยได้จัดส่งไป คิดว่าค่าส่งคงจะแพง” ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงชี้แนะว่า “ก็ไม่น่าจะสิ้นเปลืองเงินทองมากนัก เพราะเรื่องพิพิธภัณฑ์เป็นแบบสากลระหว่างประเทศ อีกประการหนึ่ง ทั่วโลกคงจะสนใจเรื่องบ้านเชียงนี้มาก ใครๆ ก็อยากจะรู้และให้ความร่วมมือในการหาอายุ ถ้าหาอายุจากกระดูกได้ ก็จะเป็นการเชื่อถือมากขึ้นอีก”
จากกระแสพระราชดำรัสในครั้งนั้น นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากรและ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการสำรวจและขุดค้นแหล่งโบราณคดีประเภทต่างๆ อย่างละเอียด ระหว่างปี 2517 - 2518 และนำไปศึกษาวิจัยเพื่อตรวจหาค่าอายุทางวิทยาศาสตร์ ผลปรากฏว่า ใต้ผืนดินชุมชนบ้านเชียงเป็นแหล่งอารยธรรมเมื่อ 5,000ปีมาแล้ว ถือเป็นการค้นพบอันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มาก ก่อให้เกิดความก้าวหน้าทางโบราณคดีของไทยเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การประกาศขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ลำดับที่ 359 ของโลก และลำดับที่ 4 ในเมืองไทยเมื่อปี 2535
วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางอังคณา บุญพงษ์ อายุ 78 อดีตข้าราชการครูที่โรงเรียนบ้านเชียงประชาเชียงเชิด นำรูปถ่ายสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเมื่อครั้งเสด็จทอดพระเนตรหลุมขุดค้นโบราณวัตถุ นำมาซึ่งความปลาบปลื้มแก่พสกนิกรชาวบ้านเชียงเป็นอย่างมาก โดยบ้านไทพวนซึ่งอยู่ข้างๆ บ้านของนางอังคณา เป็นบ้านที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีเคยเสด็จขึ้นไปบนบ้านจากนั้นนายพจน์ มนตรีพิทักษ์ เจ้าของบ้านได้ถวายบ้านให้ทั้งสองพระองค์ท่าน จนนำมาซึ่งการอนุรักษ์บ้านเก่าไทพวนโดยการดูแลของกรมศิลปากรจวบจนมาถึงปัจจุบัน
นางอังณา อดีตข้าราชการครู เล่าว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2515 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีท่านเสด็จด้วยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่ทุ่งนาคำ ตอนนั้นมีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จเยอะมาก จากนั้นทั้งสองพระองค์ท่านได้เสด็จไปดูเจ้าหน้าที่ขุดคุ้นโบราณวัตถุทั้งโครงกระดูกโบราณ ไหลายบ้านเชียง พอทั้งสองพระองค์ท่านทอดพระเนตรหลุมขุดค้นที่วัดโพธิ์ในเสร็จท่านก็มาที่หน้าบ้านของนายพจน์ มนตรีพิทักษ์ ซึ่งเป็นบ้านของอาหรือน้องของพ่อ จำได้ว่าพระองค์ท่านได้สอบถามเรื่องการขุดหลุมอยู่ จากนั้นทั้งสองพระองค์ก็เดินขึ้นไปบนบ้านไทพวนของนายพจน์ นายพจน์ก็รีบขึ้นไปบนด้วย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านบอกกับนายพจน์ว่า บ้านแบบนี้ทำด้วยไม้ หาดูไม่ได้อีกแล้วหาได้ยาก ให้รักษาเก็บไว้ดี แต่นายพจน์เจ้าของบ้านได้ถวายมอบให้ในหลวงรัชการที่ 9 และสมเด็จพระราชินีในวันนั้นเลย จากนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ให้กรมศิลปากรดูแล จากเดิมเป็นไม้เก่าๆ แต่ตอนนี้กรมศิลปากรปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านเก่าไทพวนหลังนี้ให้ลูกหลานได้มาศึกษาประวัติศาสตร์ที่ชุมชนแห่งนี้ให้คงอยู่สืบไป
นางอังคณา กล่าวอีกว่า ตนเองมีโอกาสได้เฝ้ารับเสด็จทั้งสองพระองค์อย่างใกล้ชิดตอนนั้นอยู่ที่โรงเรียนประชาเชียงเชิด ปลื้มปิติมากก้มกราบทรงพระเจริญ และมีประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จเปล่งเสียงทรงพระเจริญเสียงดังกักก้องทั่วโรงเรียน จำได้ว่ามีชาวบ้านนำวัว 3 ขามาถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินี แต่ตำรวจว่าพระองค์ท่านเอาไปด้วยไม่ได้ แต่พอทั้งสองพระองค์ท่านมาเห็น ก็มอบวัวให้กับชาวบ้านเป็นวัวพระราชทานเลย
หลังทราบว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จสวรรคต เสียใจอย่างสุดซึ้ง เพราะคิดถึงท่านพระองค์ท่านสถิติย์อยู่ในหัวใจตราบชั่วนิรันดร์ โดยเฉพาะในเรื่องประวัติศาสตร์สมเด็จพระพันปีหลวงท่านให้ความสำคัญมาก
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- เทรลเลอร์คว่ำขวางถนนพหลโยธิน จราจรติดหนัก 6 พ.ย. 2568
- อุทัยธานีอ่วม! น้ำทะลักท่วมเมือง รถดับ–เด็กเล่นน้ำกลางถนน 6 พ.ย. 2568
- เตือนรับมือพายุ “คัลแมกี” ฝนถล่มไทยหลายภาค ฉบับที่ 5 6 พ.ย. 2568
- บุรีรัมย์สืบสานลอยกระทงโบราณพันปี ปราสาทเมืองต่ำงดงามกลางแสงศรัทธา 6 พ.ย. 2568
- แม่ฮ่องสอน แถลงจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศกาลดอกบัวตองบานบนดอยแม่อูคอ 6 พ.ย. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
ปตท.บ้านผือทำบุญ 100 วัน เหตุจรวดตก เปิดเซเว่นฯ ใหม่อีกครั้ง 21:43 น.- รวบแรงงานต่างด้าว 25 ราย ซุกในกระบะเข้าประเทศ 21:39 น.
- ตำรวจขอนแก่นเปิดยุทธการ “Quick Big Win” ยึดยาบ้า 18,000 เม็ด จับผู้ต้องหา 6 ราย 21:31 น.
- เทศกาลเที่ยวพิมาย 2568 ชวนสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ณ ปราสาทหินพิมาย 21:24 น.
- แห่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐซื้อของสดหมูสด อุทัยธานี 18:55 น.



