วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 02:55 น.

ภูมิภาค

อดีตครูบ้านเชียง เล่าความหลัง 53 ปี ในหลวง ร.9-พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จทอดพระเนตรหลุมขุดค้นแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง

วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 16.31 น.

วันที่ 26 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จสวรรคต สถานที่อีกแห่งคือแหล่งมรดกโลกบ้านเชียง ตั้งอยู่ที่บ้านเชียง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จทอดพระเนตรดูการขุด ย้อนไปเมื่อ 53 ปีที่แล้ว บ่าย 2 โมงของวันที่ 20 มีนาคา 2515 ท่ามกลางเปลวแดดอันร้อนแรง เสียงเฮลิคอปเตอร์ดังอยู่เหนือหมู่บ้านบ้านเชียง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯเป็นการส่วนพระองค์ โดยมิได้มีหมายกำหนดการมาก่อน เพื่อทอดพระเนตรแหล่งขุดค้นโบราณวัตถุ ที่วัดโพธิ์ศรีใน ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังจากที่พระองค์ท่านทรงทราบข่าวว่ามีการขุดค้นพบโบราณวัตถุที่นี่เป็นจำนวนมาก โดยทั้งสองพระองค์ได้เสด็จหลุมขุดค้นที่วัดโพธิ์ศรีในและพื้นที่บ้านของนายพจน์ มนตรีพิทักษ์ ชาวบ้านเชียง โดยครั้งนั้น ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสถามเจ้าหน้าที่ ว่า “ที่ตั้งใจมาดูอยากจะเห็นสิ่งต่างๆ อยู่ในสภาพเดิมอย่างนี้ ทำไมถึงพบหลุมฝังศพและเครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสี มากที่นี่” เมื่อทอดพระเนตรดูโครงกระดูกโบราณด้วยความสนพระทัย จึงมีพระราชดำรัส ต่อว่า “กระดูกนี้เคยใช้ในการพิสูจน์หาอายุได้หรือไม่” ซึ่ง ศ.นพ.สุด แสงวิเชียร ได้กราบบังคมทูล ว่า “การหาอายุกระดูกในต่างประเทศเคยกระทำกัน แต่ประเทศเรายังไม่เคยได้จัดส่งไป คิดว่าค่าส่งคงจะแพง” ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงชี้แนะว่า “ก็ไม่น่าจะสิ้นเปลืองเงินทองมากนัก เพราะเรื่องพิพิธภัณฑ์เป็นแบบสากลระหว่างประเทศ อีกประการหนึ่ง ทั่วโลกคงจะสนใจเรื่องบ้านเชียงนี้มาก ใครๆ ก็อยากจะรู้และให้ความร่วมมือในการหาอายุ ถ้าหาอายุจากกระดูกได้ ก็จะเป็นการเชื่อถือมากขึ้นอีก”

จากกระแสพระราชดำรัสในครั้งนั้น นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากรและ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการสำรวจและขุดค้นแหล่งโบราณคดีประเภทต่างๆ อย่างละเอียด ระหว่างปี 2517 - 2518 และนำไปศึกษาวิจัยเพื่อตรวจหาค่าอายุทางวิทยาศาสตร์ ผลปรากฏว่า ใต้ผืนดินชุมชนบ้านเชียงเป็นแหล่งอารยธรรมเมื่อ 5,000ปีมาแล้ว ถือเป็นการค้นพบอันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มาก ก่อให้เกิดความก้าวหน้าทางโบราณคดีของไทยเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การประกาศขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ลำดับที่ 359 ของโลก และลำดับที่ 4 ในเมืองไทยเมื่อปี 2535

วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางอังคณา บุญพงษ์ อายุ 78 อดีตข้าราชการครูที่โรงเรียนบ้านเชียงประชาเชียงเชิด นำรูปถ่ายสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเมื่อครั้งเสด็จทอดพระเนตรหลุมขุดค้นโบราณวัตถุ นำมาซึ่งความปลาบปลื้มแก่พสกนิกรชาวบ้านเชียงเป็นอย่างมาก โดยบ้านไทพวนซึ่งอยู่ข้างๆ บ้านของนางอังคณา เป็นบ้านที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีเคยเสด็จขึ้นไปบนบ้านจากนั้นนายพจน์ มนตรีพิทักษ์ เจ้าของบ้านได้ถวายบ้านให้ทั้งสองพระองค์ท่าน จนนำมาซึ่งการอนุรักษ์บ้านเก่าไทพวนโดยการดูแลของกรมศิลปากรจวบจนมาถึงปัจจุบัน

นางอังณา อดีตข้าราชการครู เล่าว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2515 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีท่านเสด็จด้วยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่ทุ่งนาคำ ตอนนั้นมีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จเยอะมาก  จากนั้นทั้งสองพระองค์ท่านได้เสด็จไปดูเจ้าหน้าที่ขุดคุ้นโบราณวัตถุทั้งโครงกระดูกโบราณ ไหลายบ้านเชียง พอทั้งสองพระองค์ท่านทอดพระเนตรหลุมขุดค้นที่วัดโพธิ์ในเสร็จท่านก็มาที่หน้าบ้านของนายพจน์ มนตรีพิทักษ์ ซึ่งเป็นบ้านของอาหรือน้องของพ่อ จำได้ว่าพระองค์ท่านได้สอบถามเรื่องการขุดหลุมอยู่ จากนั้นทั้งสองพระองค์ก็เดินขึ้นไปบนบ้านไทพวนของนายพจน์ นายพจน์ก็รีบขึ้นไปบนด้วย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านบอกกับนายพจน์ว่า บ้านแบบนี้ทำด้วยไม้ หาดูไม่ได้อีกแล้วหาได้ยาก ให้รักษาเก็บไว้ดี แต่นายพจน์เจ้าของบ้านได้ถวายมอบให้ในหลวงรัชการที่ 9 และสมเด็จพระราชินีในวันนั้นเลย จากนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ให้กรมศิลปากรดูแล จากเดิมเป็นไม้เก่าๆ แต่ตอนนี้กรมศิลปากรปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านเก่าไทพวนหลังนี้ให้ลูกหลานได้มาศึกษาประวัติศาสตร์ที่ชุมชนแห่งนี้ให้คงอยู่สืบไป

นางอังคณา กล่าวอีกว่า ตนเองมีโอกาสได้เฝ้ารับเสด็จทั้งสองพระองค์อย่างใกล้ชิดตอนนั้นอยู่ที่โรงเรียนประชาเชียงเชิด ปลื้มปิติมากก้มกราบทรงพระเจริญ และมีประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จเปล่งเสียงทรงพระเจริญเสียงดังกักก้องทั่วโรงเรียน  จำได้ว่ามีชาวบ้านนำวัว 3 ขามาถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินี แต่ตำรวจว่าพระองค์ท่านเอาไปด้วยไม่ได้ แต่พอทั้งสองพระองค์ท่านมาเห็น ก็มอบวัวให้กับชาวบ้านเป็นวัวพระราชทานเลย

หลังทราบว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จสวรรคต เสียใจอย่างสุดซึ้ง เพราะคิดถึงท่านพระองค์ท่านสถิติย์อยู่ในหัวใจตราบชั่วนิรันดร์ โดยเฉพาะในเรื่องประวัติศาสตร์สมเด็จพระพันปีหลวงท่านให้ความสำคัญมาก

หน้าแรก » ภูมิภาค