วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมชลประทานแจ้งปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์น้ำจากภาคเหนือเริ่มคลี่คลาย โดยมวลน้ำที่ไหลลงมามีแนวโน้มลดลง จึงได้ปรับการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจากอัตรา 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เหลือ 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่องเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพน้ำฝนในพื้นที่

สถานการณ์น้ำเหนือบริเวณจังหวัดนครสวรรค์มีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างลดลงตามไปด้วย ขณะเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ทำให้ปริมาณฝนในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากไม่มีฝนตกซ้ำในพื้นที่ตอนบน ชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท กว่า 500 ครอบครัวที่ต้องอพยพไปอยู่ริมคันคลองมหาราช เตรียมกลับเข้าบ้านในเร็ว ๆ นี้

สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบันที่สถานีวัดน้ำ C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,404 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท มีปริมาณน้ำด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ระดับ 15.97 เมตร (รทก.) ระบายน้ำที่อัตรา 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อหน่วงน้ำเหนือที่ไหลลงสู่ภาคกลาง ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวอยู่ที่ 14.99 เมตร (รทก.) ต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 135 เซนติเมตร

ขณะเดียวกัน พระราชวชิรกิจจาทร เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท พร้อมคณะสงฆ์ และนายวัชรินทร์ คุ่ยศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาท ได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจและมอบข้าวสารอาหารแห้งแก่ 3 วัดที่ประสบอุทกภัยในตำบลโพนางดำออก อำเภอสรรพยา ได้แก่ วัดมะปราง วัดสมอ และวัดไผ่ล้อม

นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า คณะสงฆ์ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจพระภิกษุและชาวบ้าน โดยเฉพาะที่วัดไผ่ล้อม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำสุดของอำเภอสรรพยาและยังคงมีน้ำท่วมขังสูง ต้องใช้รถไถเดินทางเข้าไปเป็นระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาทจะร่วมกับคณะสงฆ์และหน่วยงานในพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอสรรพยา เตรียมจัดกิจกรรม “จิตอาสา บิ๊กคลีนนิ่งเดย์” เพื่อทำความสะอาดศาสนสถานและสถานที่สาธารณะทันทีเมื่อระดับน้ำลดลง

สำหรับการบูรณะซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างที่เสียหาย สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาทได้แนะนำให้แต่ละวัดจัดทำภาพถ่ายและรายงานความเสียหายเพื่อประกอบการยื่นของบประมาณบูรณะต่อส่วนกลางในลำดับต่อไป