วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568 04:33 น.

ภูมิภาค

“ช่างบิ๊ก” เสียดายปราสาทตาควายยืนยันเป็นของไทยฝากถึงนายกหาแนวทาง

วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 13.44 น.

อำเภอเมือง/ช่างบิ๊ก ชายที่เคยไปพัฒนาช่วยเหลือทหาร และนำสิ่งของไปมอบให้ที่ปราสาทตาควาย เผยปราสาทตาควายเป็นของไทยชัดเจน แต่หลังการปะทะทหารกัมพูชา ยึดเอาไปได้รู้สึกเสียดายพวกตนลงทุนไปช่วยเหลือหลายครั้ง อยากฝากถึงนายกรัฐมนตรี หาแนวทางเอาปราสาทกลับคืนมา

วันที่ 30 ต.ค.68 กรณีเพจเฟซบุ๊ก ช่างบิ๊ก บุรีรัมย์ ได้โพสต์ภาพปราสาทตาควายพร้อมเครื่องจักรและข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมเขียนข้อความว่า” #ปราสาทตาควายก่อนรบ ทีมเรานำยางรถยนต์ น้ำและอาหารแห้งไปมอบให้พี่ๆทหาร เพื่อเตรียมความพร้อม ระหว่างรบ ทีมเราวิ่งส่งเสบียงในพื้นที่ ให้กับผู้ประสบภัยที่ไม่อพยพ รวมถึงเจ้าหน้าที่หมู่บ้าน

 


หลังรบเสร็จ เราเข้าไปช่วยเพื่อเตรียมความพร้อมหากมีการปะทะอีกครั้ง เช่น ทำบังเกอร์ ทำทางให้รถถัง นำยางรถยนต์ เสบียงน้ำดื่ม อาหารแห้งขึ้นไป ลุยงานกันจนดึกทุกวันแต่ไม่เคยเหนื่อยเลย

ในวันที่รู้ว่าเราเสียปราสาทตาควาย ผมขับรถจากบ้านไปช่วยทำทางให้ทหาร ขับรถไปน้ำตาไหลไป แต่ไม่เคยท้อเลย#มีแค่ความเชื่อว่าสักวันเราจะเอาปราสาทตาควายกลับมาคืน แต่สุดท้าย ความเชื่อในครั้งนี้ของผม มันคงไม่เป็นจริงแล้ว ถ้าดูจากสถานการณ์และแนวทางในการเจรจาตอนนี้#เราคงพูดได้แล้วว่าเราเสียปราสาทตาควายไปตลอดกาล #มันไม่ใช่แค่ปราสาทแต่มันคือผืนแผ่นดินไทย

 


ผู้สื่อข่าวสอบถามนายภูริภาคย์ ศรีรัตน์ดีจรัส อายุ 38 ปี หรือ ช่างบิ๊ก ชาว ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า ตั้งแต่ก่อนจะมีการปะทะ ตนกับทีมงานเดินทางไปช่วยทหารทั้งขนยางรถยนต์เอาไปทำเป็นบังเกอร์หลายคันรถ เอาข้าวสารอาหารแห้งไปหลายครั้ง 

และต่อมาหลังหยุดยิง ทราบข่าวว่าทหารกัมพูชา สามารถยึดครองเอาปราสาทตาควายได้ ตอนนั้นตนคิดว่าอาจจะพอมีแนวทางยึดกลับคืนมา แต่หลังมีการลงนามที่มาเลเซีย โดยมีผู้นำสหรัฐและผู้นำมาเลเซีย มาร่วมเป็นพยานด้วยนั้น ส่วนตัวมองว่าโอกาสที่จะได้ปราสาทคืนมายากขึ้นหรือเท่ากับอาจจะหมดโอกาส เพราะเริ่มมีการขนอาวุธหนักกลับตามข้อตกลงแล้ว

 


ยอมรับว่าหลังรู้ข่าวตอนหยุดปะทะ ตนพยายามขับรถไปมองทั้งน้ำด้วยความเสียดายส่วนหนึ่งก็อยากจะฝากถึงนายกรัฐมนตรี ว่าให้หาแนวทางเอาปราสาทตาควายกลับคืนมาเป็นของไทยคืน เพราะจุดนั้นเป็นแผ่นดินของไทย

 

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค