วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อของพลทหารที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่แนวชายแดนไทย–กัมพูชา ยังรู้สึกติดใจและไม่สบายใจ หลังทราบข่าวว่ากองทัพไทยเริ่มถอนกำลังและอาวุธหนักออกจากพื้นที่แนวชายแดน โดยให้เหตุผลว่าหวั่นเกรงว่าฝ่ายกัมพูชาอาจกลับลำหรือไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ร่วมลงนามกันไว้

การถอนกำลังดังกล่าวเป็นไปตามข้อตกลงที่ไทยและกัมพูชาได้ลงนามร่วมกันที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อร่วมกันถอนทหารและอาวุธหนักตามลำดับขั้นตอน ซึ่งมีรายงานว่ากองทัพไทยได้ทยอยถอนอาวุธหนักจากแนวชายแดนกลับไปยังฐานที่ตั้งเดิมแล้ว

นายพลวรรธน์ ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ พ่อของพลทหารพิทยุตม์ หรือน้อย อายุ 20 ปี ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า หากย้อนไปในช่วงวันที่ 24–28 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ฝั่งไทยเป็นฝ่ายสูญเสียมากที่สุด โดยเฉพาะพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตี

นายพลวรรธน์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการถอนกำลัง เพราะยังไม่เชื่อมั่นว่าผู้นำกัมพูชาจะปฏิบัติตามข้อตกลงได้จริง หากถอนอาวุธหนักออกทั้งหมด อาจเกิดความเสี่ยงหากอีกฝ่ายโจมตีเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว

“ผมสูญเสียลูกชายไปแล้ว ไม่อยากเห็นใครต้องสูญเสียอีก แม้ทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่ากองทัพไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะตอบโต้หากเกิดเหตุปะทะขึ้นอีกครั้ง” นายพลวรรธน์ กล่าวทิ้งท้าย