วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 06:42 น.

ภูมิภาค

“พายุคัลแมกี” ถล่มอีสาน–เหนือ พัดเข้าอุบลฯ–ฝนถล่มทั่วไทย

วันศุกร์ ที่ 07 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 05.42 น.

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “คัลแมกี” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 11 

เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ (7 พ.ย. 68) พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (KALMAEGI) บริเวณเมืองกอนตูม ประเทศเวียดนามได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 230 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี หรือที่ละติจูด 14.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.4 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงบ่ายของวันนี้ (7 พ.ย .68) ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

จากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 7–9 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 7 พ.ย. 68

ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 03.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 06.00 น.]

 

ลักษณะอากาศทั่วไป

07 พฤศจิกายน 2568

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เนื่องจากอิทธิพลของ พายุไต้ฝุ่น“คัลแมกี” (KALMAEGI) บริเวณเมืองกอนตูม ประเทศเวียดนามได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงแล้ว หลังจากนั้นมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงบ่ายของวันนี้ (7 พ.ย .68) ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร
สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เนื่องจากมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าว ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง 
โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 7 พ.ย. 68

ออกประกาศ 07 พฤศจิกายน 2568

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย

06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  
บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และพิจิตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส   
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรง
บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร มุกดาหาร สุรินทร์ ร้อยเอ็ด 
มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  
บริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา 
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  
บริเวณจังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส  
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส    
ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง  
บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง  
บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ออกประกาศ 07 พฤศจิกายน 2568

 

หน้าแรก » ภูมิภาค