วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 01:04 น.

อาชญากรรม » คอลัมน์

ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

รอง ป. : วันจันทร์ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 07.44 น.

เอ๊ะ! มันก็ยัง งง งง... !!!

 

 

เอ๊ะ! มันก็ยัง งง งง... !!!

 

รายงานตัววันนี้...บอกตรงๆ งง! กับการรับสมัครสอบเข้ารับราชการตำรวจสัญญาบัตร ที่รับผู้มีคุณวุฒิเนติบัณฑิต เพศชาย เพื่อทำหน้าที่สายงานสอบสวน เป็นพนักงานสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา โฆษก สตช. แจ้งเรื่องกองบัญชาการศึกษาประกาศรับสมัครพนักงานสอบสวน 250 อัตรา จากผู้ที่จบ "เนติบัณฑิต" โดยกำหนดถึงวันที่ 22 มิ.ย.2561 พร้อมทั้งคุยโขมง "ขณะนี้มีผู้สมัครแล้ว 370 ราย อัตราส่วนเพียงแค่ 1:1.5 คนเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้มีโอกาสได้รับการบรรจุค่อนข้างสูงมาก ส่วนตำแหน่งของนิติกรเปิดรับสมัครแค่ 35 คนแต่มีผู้ที่จบเนติบัณฑิตสมัครแล้วถึง 307 คนดังนั้นในส่วนนี้จึงมีอัตราส่วนถึง 1:8.7 คน ดังนั้นตำแหน่งที่เป็นนิติกรก็ล้นแล้ว"

 

♦♦ แต่พอเข้าไปดูที่ http:/rcm.edupol.org/ กลับมีประกาศรับสมัครตำแหน่ง รองสว.(สอบสวน)เพิ่มเติมจากเดิม 250 อัตรา เพิ่มเป็น 300 อัตรา ขยายเวลารับสมัครถึงวันที่ 13 ก.ค.61 เลยต้องบอก งง!!! เพราะในเมื่อ "ท่านโฆษกใหญ่" บอกมีคนสมัครล้นแล้ว เหตุใดถึงต้องมาเพิ่มอัตรา ทำไมไม่คัดเลือกจาก 370 รายที่สมัคร รวมทั้งยังขยายเวลารับสมัครเพิ่มไปอีก ดูจะย้อนแย้งอย่างไรชอบกล ๐

 

♦♦ เฮ้อ...ต้องยอมรับ "พนักงานสอบสวน" โดยเฉพาะของตำรวจ มีปัญหามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะการเจริญเติบโต ความก้าวหน้าในการทำงานมีน้อยกว่าสายงานอื่นของตำรวจ รวมทั้งคดีความต่างๆ ก็ยังเยอะ มีความเครียด มีปัญหาสารพัด ทำให้ "ตำรวจ" ที่จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.) หนีไปอยู่สายงานอื่นกันหมด บางรายก็โอนย้ายไปอยู่หน่วยงานที่มีรายได้สูง "พนักงานสอบสวน" เลยขาดแคลน

 

♦♦ แม้จะพยายามดึงผู้ที่จบปริญญาตรี จบกฎหมาย เข้ามาเสริม แต่ก็ดูจะยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เพราะหากผู้ที่จบกฎหมาย จบเนฯ เลือกไปสายงานกระบวนการยุติธรรม ไปเป็นอัยการ ไปเป็นผู้พิพากษา ดูจะมีอนาคตมากกว่า หาก "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" อยากจะให้ "พนักงานสอบสวนตำรวจ" เป็นที่ ต้องตา ต้องใจ ให้ใครๆ อยากเข้ามาเป็น หน่วยงานเองก็ต้องให้ความสำคัญกับสายงานนี้ โดยเฉพาะการ "ปฎิรูปงานสอบสวน" ต้องผลักดันให้เป็นรูปธรรม ให้ทุกคนเห็นถึงอนาคต เห็นรายได้ เห็นความเป็นอิสระ ไม่ถูกคลอบงำจาก ผกก. โรงพัก จนพนักงานสอบสวนสุ่มเสี่ยงติดคุก เมื่อนั้นทุกคนก็อยากจะเป็นพนักงานสอบสวนตำรวจ ๐

 

♦♦ ชื่นชมๆ ตำรวจที่ช่วยกันคลี่คลายคดีคนร้ายฆ่าหั่นศพหญิงสาวทำสีผม และแยกชิ้นส่วน 14 ชิ้น ใส่กระเป๋าเป้สีดำ กระสอบปุ๋ยและถุงพลาสติก ทิ้งป่าบริเวณถนนเลียบคลอง2 ซอย 29 แขวงบางชัน เขตคลองสามวาย่านมีนบุรี ทั้ง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรเทพ สูติปัญญา ผกก.สน.มีนบุรี และฝ่ายสืบสวน บก.น.3 ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงสามารถปิดคดีจับกุม "อดีตแฟนของผู้เสียชีวิต" ธนกฤษ หรือวุธ ประกอบ มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในเวลารวดเร็ว ๐

 

♦♦ ปิดท้ายกรณี ทนายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จับกุมบนโรงพัก และมีภาพการใช้ความรุนแรง จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งทนายสุกิจ จะฟ้องร้อง พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เห็นด้วยที่จะมีการฟ้องร้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณา ใครผิด ใครถูก โดยแต่ละฝ่ายจะได้นำหลักฐานมาโต้แย้งกัน ดีกว่าให้สัมภาษณ์สาดกันไปมาจนองค์กรเสียหายไปหมด ๐ สวัสดี

                                                                                             

 

รอง ป.