วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:23 น.

การเมือง

สมาคมหมูเตือนรัฐบาล! ห้ามเปิดตลาดเนื้อหมูสหรัฐฯ หวั่นล้มอุตสาหกรรมปศุสัตว์ไทย

วันอังคาร ที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 13.32 น.

สมาคมหมูย้ำจุดยืนไม่เปิดตลาดนำเข้าเนื้อหมูสหรัฐฯส่งสัญญาณเตือนรัฐบาลต้องไม่ใช้การเปิดตลาดเนื้อหมูเป็นดีล แลกการลดภาษีกับสหรัฐอเมริกา ย้ำแม้อ้างเพื่อนำมาผลิตอาหารสัตว์ก็ไม่ควรเพราะโอกาสหลุดออกสู่ตลาดบริโภคสูง จะสร้างความเสียหายรุนแรงต่อภาคปศุสัตว์และส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568      นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติระบุถึงการที่สหรัฐอเมริกาประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทย 36% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องเจรจากันอีกครั้ง โดยยังไม่ทราบว่า รัฐบาลจะเปิดตลาดให้มีการนำเข้าเนื้อ ชิ้นส่วน และเครื่องในหมูจากสหรัฐฯ ตามที่สหรัฐฯ แสดงความต้องการมานานแล้วหรือไม่ แต่ขอเน้นย้ำว่า หากรัฐบาลยอมให้นำเข้า จะเป็นการทำลายเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร รวมถึงตลอดห่วงโซ่เนื่องจากซึ่งต้นทุนการผลิตสุกรของสหรัฐฯ ต่ำมาก เมื่อนำเข้ามาจะตีตลาดภายในประเทศจนเกษตรกรต้องล้มละลายและไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องต่อรองบนโต๊ะเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เพราะเป็นสินค้าเกษตรที่มีต้นทุนสูง กำไรต่ำ และเกี่ยวพันโดยตรงกับความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ผู้เลี้ยงสุกรไทยไม่สามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม

นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเปิดประตูให้โรคระบาดสัตว์และโรคอุบัติใหม่ เช่น โรคไข้หวัดหมู ซึ่งไม่เคยพบในไทย เข้ามาสร้างความเสียหายต่อระบบปศุสัตว์ ที่ปัจจุบันมีมาตรฐานการป้องกันโรคสัตว์ในระดับสากลและได้รับการยอมรับจากนานาชาติ

อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งข้อกังวลสำคัญ คือ ประเทศผู้ส่งออกอย่างสหรัฐฯ ยังอนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดงในกลุ่ม Beta-agonist ที่ไทยสั่งห้ามใช้โดยเด็ดขาด แม้จะมีการอ้างว่า อยู่ในระดับปลอดภัยต่อสุขภาพ แต่หากบริโภคในปริมาณมาก อาจทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง ปวดศีรษะ และมือสั่น โดยมีรายงานทางวิทยาศาสตร์ว่า สารนี้สะสมในเครื่องในได้มากกว่าในเนื้อสุกร แม้จะนำมาผลิตอาหารสัตว์ก็ยังเสี่ยงที่จะหลุดรอดออกจากระบบมาสู่ตลาดบริโภค

นายสิทธิพันธ์ บอกอีกว่า สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนแนวทางการเจรจา หยุดแนวคิดเปิดตลาดเนื้อหมูและสินค้าเกษตรที่เปราะบาง พร้อมหันไปพิจารณาสินค้าอุตสาหกรรมอื่นที่สามารถแข่งขันได้จริง เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมอาหารปลอดภัย และสร้างความมั่นคงทางอาหารในระยะยาวด้วย
 

หน้าแรก » การเมือง