"ศรีสุวรรณ" ยื่นหนังสือถึง "รมต.โฟม - พงศ์กวิน" ขอให้ตรวจสอบ ‘อธิบดีกรมจัดหางานและรองอธิบดี’ หลังพบข้อสงสัยว่าอาจเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลงานโครงการฯจ้างจัดทำและต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวมูลค่า 7,950 ล้านบาท ลั่นถือเป็นบทพิสูจน์ รมต.คนใหม่ จะต้องตั้งกรรมการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่กระทรวงแรงงาน ถ.มิตรไมตรี เขตดินแดง นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ยื่นหนังสือถึง นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อขอให้ตั้งกรรมการสอบอธิบดีกรมจัดหางานและรองอธิบดี กรณีมีข้อสงสัยว่าอาจเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลงานโครงการฯจ้างจัดทำและต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวมูลค่า 7,950 ล้านบาท โดยไม่สั่งปรับเอกชนรายดังกล่าวที่ไม่สามารถส่งมอบงานตามสัญญา เกินกว่า 1 ปี กว่า 300 ล้านบาทหรือไม่ โดยมี นายศรัณยสัณฑ์ วีรกุลสุนทร คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้รับมอบหนังสือ 
          

โดยนายศรีสุวรรณ ระบุว่า สืบเนื่องจากกรมการจัดหางานได้เปิดประมูลให้เอกชนมาจัดทำโครงการจ้างเหมาเอกชนผลิตใบอนุญาตทำงาน และให้บริการรับคำขอ และการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว (Outsourcing Service) งบประมาณ 7,950 ล้านบาท ซึ่งมีกิจการร่วมค้าชื่อดังแห่งหนึ่งประมูลงานได้ โดยได้ลงนามเซ็นต์สัญญากันไปเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 มีระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 360 วันและจะต้องส่งมอบงานในเดือน กรกฎาคม 2567 หากไม่สามารถส่งมอบงานได้จะต้องเสียค่าปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.10 ของมูลค่างานที่ยังไม่ส่งมอบ  กระทั่งมีการจัดการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการฯดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดว่า เป็นการเดินหน้ายกระดับการให้บริการภาครัฐ ตอบรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะมุ่งเน้นความโปร่งใส รวดเร็ว ตรวจสอบได้ ลดภาระประชาชนและภาครัฐ ด้วยระบบ e-WorkPermit และศูนย์บริการกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ และยังอ้างว่า โครงการนี้จะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินการ ทำให้การยื่นขอใบอนุญาตทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 3 วัน แต่ไม่ได้มีการพูดถึงเงินค่าปรับที่เอกชนผู้รับจ้างต้องจ่ายให้กับกรมการจัดหางานที่ส่งมอบงานล่าช้าไปกว่า 1 ปีแต่อย่างใด ตีเป็นเงินค่าปรับเข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท กรณีดังกล่าวจึงเป็นข้อพิรุธที่อาจมีการวิ่งเต้นช่วยเหลือบริษัทเอกชนรายดังกล่าว ในทุกช่องทางโดยอำนาจของอดีตนักการเมืองใหญ่เจ้ากระทรวงในอดีตร่วมกับผู้บริหารของกรมจัดหรือไม่ โดยช่วยขยายเวลาส่งมอบงานออกไปนับปีเยี่ยงนี้
      

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ยังมีข้อสงสัยว่าอาจมีการวิ่งเต้นติดสินบน ในคณะกรรมาธิการบางคณะหรือไม่ เพื่อมิให้เอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยให้ชะลอหรือถ่วงเวลาการสั่งปรับเงินดังกล่าวออกไป และยังมีการเจรจาต่อรองเพื่อขอโควต้าแรงงานต่างด้าว เพื่อจะนำมาขึ้นทะเบียนนอกระบบ กินหัวคิวส่วนต่าง มูลค่ามหาศาล สัญญา 10 ปี จะต้องต่อใบอนุญาต 4 ครั้ง ส่วนต่างนอกระบบเฉลี่ยประมาณ 2,200 บาท/คนมีมูลค่าหลายหมื่นล้าน ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ DSI ได้เข้าจับกุมขบวนการรีดหัวคิวแรงงานนำไปฟอกเงินผ่านเจ้าหน้าที่ของประเทศเพื่อนบ้าน  ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีความเชื่อมโยงกับข้าราชการระดับสูงของกระทรวงแรงงานอีกด้วย เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงต้องนำความมาร้องเรียนต่อท่าน รมว.แรงงาน คนใหม่ เพื่อพิสูจน์ว่าถ้าเป็นคนจริงมีความรู้ความสามารถจริง ไม่ถูกใครฝากมา จะต้องตั้งกรรมการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามคำร้องได้อย่างแน่นอน