เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568   กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 1 เท่าตัว เหตุคาดปลายฤดูฝน จะมีน้ำไหลเข้ามากถึง 1,400 ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนจะสูงขึ้น 0.80 – 1.00 เมตร ย้ำเป็นการทยอยปรับเพื่อให้ระดับน้ำยังคงอยู่ในลำน้ำ

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในลุ่มน้ำป่าสักเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องด้วยคาดการณ์ว่า ในเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม 2568 จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวมประมาณ 1,400 ล้าน ลบ.ม. เทียบเคียงกับปี 2556 

ปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ 340 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 35 ของความจุและยังคงมีแนวโน้มปริมาณน้ำไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้กรมชลประทานมีแผนการระบายในเดือนกันยายน รวมประมาณ 520 ล้าน ลบ.ม. (อัตรา ระบาย 200 ลบ.ม./วินาที หรือ 17.28 ล้าน ลบ.ม./วัน) และในเดือนตุลาคม รวมประมาณ 900 ล้าน ลบ.ม. (อัตราระบาย 336 ลบ.ม./วินาที หรือ 29.03 ล้าน ลบ.ม./วัน) เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม 

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ได้เริ่มปรับเพิ่มการระบายน้ำจากอัตรา 100 ลบ.ม./วินาที มีเป้าหมายเป็น อัตรา 200 ลบ.ม./วินาที โดยทยอยปรับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ในอัตราวันละ 20 ลบ.ม./วินาที และคงอัตรา 200 ลบ.ม./วินาทีต่อเนื่อง โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนเป็นต้นไป 

การระบายน้ำในอัตราดังกล่าว จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนสูงขึ้น 0.80 – 1.00 เมตร โดยระดับน้ำที่สูงขึ้นยังอยู่ในลำน้ำ ไม่เกิดสภาวะน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำป่าสัก แต่ขอให้ประชาชนติดตามการแจ้งเตือนจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง