“สมศักดิ์” เปิด“สถาบันสุขภาวะพิสิฐ” ชี้ เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับงานด้านเวชศาสตร์ป้องกัน-การส่งเสริมสุขภาพประชาชน ย้ำ  NCDs เป็นปัญหาคุกคามระบบสาธารณสุข ต้องเร่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประชาชน-ผสมผสานเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ 

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานเปิดและปาฐกถาพิเศษในพิธีเปิด “สถาบันสุขภาวะพิสิฐ” โดยมี ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ประธานกรรมการบริหารสถาบันสุขภาวะพิสิฐ และนายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และรองประธานกรรมการบริหารสถาบันสุขภาวะพิสิฐ นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการบริหารสถาบันสุขภาวะพิสิฐ เข่าร่วม ที่ห้องประชุมชั้น 1 อาคาร 100 ปี การสาธารณสุขไทย (อาคาร 14 ชั้น) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่องค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทานชื่อสถาบัน“สุขภาวะพิสิฐ” ซึ่งมีความหมายอันงดงามว่า"สถาบันที่เป็นเลิศด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี" พร้อมทั้งทรงมีพระราชานุญาต ให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย “ส.ธ.” ประดับเหนือชื่อสถาบัน ตนจึงมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิด“สถาบันสุขภาวะพิสิฐ” ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของประเทศ ในการยกระดับงานด้านเวชศาสตร์ป้องกัน การส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตแก่ประชาชน รวมถึงการพัฒนาสุขภาวะแห่งชาติให้มีความยั่งยืน เป็นเครื่องยืนยันถึงความร่วมมือ ระหว่างภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม ที่จะร่วมกันเปลี่ยนผ่านประเทศไทย ไปสู่สังคมที่มีสุขภาวะดีอย่างยั่งยืน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs เป็นปัญหาสำคัญที่คุกคามระบบสาธารณสุข และเศรษฐกิจของประเทศ กระทรวงสาธารณสุข จึงให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนนโยบาย “สุขภาพดี วิถีชีวิตดี และเศรษฐกิจดี” โดยเฉพาะการป้องกันและควบคุมโรค NCDs ซึ่งต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนในวงกว้าง มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพเชิงรุก สร้างระบบบริการที่เน้นการป้องกันก่อนการเจ็บป่วย ผสมผสานกับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ เพื่อให้เกิดการดูแลสุขภาพที่แม่นยำ ปลอดภัย และยั่งยืน ตลอดจนเพิ่มบทบาทของ อสม. ในการสื่อสาร เฝ้าระวัง และส่งเสริมสุขภาพในระดับครัวเรือน 

“เราได้ส่งเสริมการนำแนวคิด เวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) มาใช้ในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยเน้น 6 เสาหลัก ได้แก่ 1.โภชนาการที่เหมาะสม คือ คาร์บไม่เกิน โปรตีนให้เพียงพอ และทานไขมันดี 2.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 3.การนอนหลับเพียงพอ 4.การจัดการความเครียด 5.การไม่ใช้สารเสพติด และ 6.การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมเชิงบวก นอกจากนี้ ผมยังได้ผลักดันนโยบาย เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพสู่ Medical & Wellness Hub โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ยกระดับภูมิปัญญาไทย ส่งเสริมการใช้แพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อการแพทย์ ในระบบบริการสุขภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ” รมว.สาธารณสุข กล่าว