วันศุกร์ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2568 09:39 น.

กทม-สาธารณสุข

ม.อ. จับมืออภัยภูเบศร พัฒนาสมุนไพรฉุกเฉิน ลดพึ่งพายานำเข้า

วันพฤหัสบดี ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2568, 09.38 น.

สถานการณ์ความไม่สงบทั้งในระดับโลกและภูมิภาค ทำให้หลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศสและอีกหลายชาติในยุโรป เร่งเตรียมระบบการแพทย์เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉิน ขณะที่ประเทศไทยเองก็มีความไม่ปกติในพื้นที่ชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออก จึงถึงเวลาที่ต้องเสริมความมั่นคงด้านเวชภัณฑ์จากภูมิปัญญาและสมุนไพรไทย 

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568  รศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้หารือร่วมกับ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อวางแนวทางความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน โดยเน้น การห้ามเลือดและการบรรเทาปวด 

ทั้งนี้ ทีมวิจัย ม.อ. เคยได้รับ รางวัลดีเด่นอันดับ 1 จากโครงการพัฒนา “ไมโครแคปซูลควบคุมการปลดปล่อยสารแคนนาบิมิเมติกส์และฟลาโวนอยด์” เพื่อหยุดเลือดและระงับปวด ในกิจกรรม วันภูมิปัญญานักรบไทย ประจำปี 2568 และมีแผนต่อยอดสู่ แผ่นแปะห้ามเลือดผสมสารสกัดกัญชงและสาบเสือ ซึ่งสารสกัดกัญชงมีส่วนช่วยสมานแผล  โดยลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ  กระตุ้น fibroblast และ collagen จึงช่วยให้ปิดแผลเร็วขึ้น และยังมีฤทธิ์ลดปวดได้ด้วย ส่วนสาบเสือเองนั้นมีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดหดตัว ต้านการรวมตัวของเกร็ดเลือด เร่งกระบวนการแข็งตัวของเลือด ต้านการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่ผิวหนังต้านการอักเสบ และสมานแผล มีการวิจัยก่อนหน้าพบว่าสารสกัดใบสาบเสือสามารถหยุดเลือดได้เร็วกว่ากลุ่มควบคุมในสัตว์ทดลอง โดยทำให้เวลาการแข็งตัวของเลือดสั้นลง 

โดยทางทีมมีแผนเริ่มจากการพัฒนาสารสกัดที่มีความคงสภาพ  นำมาพัฒนาเป็นครีมปราศจากเชื้อ ทดสอบฤทธิ์ในเซลล์หรือสัตว์ทดลอง และทดสอบประสิทธิผลในคนเป็นขั้นตอนเป็นขั้นตอนสุดท้าย  ส่วนผลิตภัณฑ์อีกกลุ่มที่ทางทีมจะดำเนินต่อเพื่อนำมาใช้ประโยชน์คือ  แคปซูลจากสารสกัดกระท่อม  เพื่อบรรเทาอาการปวดที่มีความรุนแรงระดับปานกลาง  ซึ่งที่ผ่านมาสถาบันวิจัยได้มีการศึกษาคุณภาพของใบกระท่อม  และนำมาทำเป็นสารสกัดหลายรูปแบบ  รวมถึงการศึกษาความเป็นพิษจนได้ขนาดที่นำมาใช้ในคนได้อย่างปลอดภัย   ซึ่งทางสถาบันวิจัยและอภัยภูเบศร ร่วมกับเครือข่ายจะดำเนินการร่วมกันในการพัฒนาแคปซูลจากสารสกัดที่มีควาทคงสภาพ และดูดซึมผ่านทางเดินาหารเพื่อให้ออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้น  และจะนำไปขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน

การประชุมครั้งนี้ยังมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม ได้แก่  พลตรี นพ.โชคชัย ขวัญพิชิต รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก ภญ.วรสุดา ยูงทอง ผู้อำนวยการกองยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  ภญ.วรรณนิษา เถียรทวี ผู้เชี่ยวชาญกองนโยบายแห่งชาติด้านยา

ดร.ภก.วีระชัย พิพัฒน์รัตนเสรี ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา และรศ.ดร.จินดาพร ภูริพัฒนวงศ์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภก.กิตติ สุคันโธ   สถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ และดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว  โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เข้าร่วมวางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบสู่การนำไปใช้ประโยชน์  โดยมุ่งเป้าใช้วัตถุดิบในประเทศ 100%  ยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์  และทำให้มียาพร้อมใช้ในภาวะฉุกเฉินเพื่อเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองของประเทศ โดยจะมีการติดตามความก้าวหน้าเป็นระยะ เพื่อผลักดันให้สมุนไพรไทยก้าวสู่การเป็นกำลังสำคัญในการแพทย์ฉุกเฉินในอนาคต
 

หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข