กทม-สาธารณสุข
ม.อ. จับมืออภัยภูเบศร พัฒนาสมุนไพรฉุกเฉิน ลดพึ่งพายานำเข้า
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

สถานการณ์ความไม่สงบทั้งในระดับโลกและภูมิภาค ทำให้หลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศสและอีกหลายชาติในยุโรป เร่งเตรียมระบบการแพทย์เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉิน ขณะที่ประเทศไทยเองก็มีความไม่ปกติในพื้นที่ชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออก จึงถึงเวลาที่ต้องเสริมความมั่นคงด้านเวชภัณฑ์จากภูมิปัญญาและสมุนไพรไทย
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 รศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ สำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้หารือร่วมกับ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อวางแนวทางความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน โดยเน้น การห้ามเลือดและการบรรเทาปวด
ทั้งนี้ ทีมวิจัย ม.อ. เคยได้รับ รางวัลดีเด่นอันดับ 1 จากโครงการพัฒนา “ไมโครแคปซูลควบคุมการปลดปล่อยสารแคนนาบิมิเมติกส์และฟลาโวนอยด์” เพื่อหยุดเลือดและระงับปวด ในกิจกรรม วันภูมิปัญญานักรบไทย ประจำปี 2568 และมีแผนต่อยอดสู่ แผ่นแปะห้ามเลือดผสมสารสกัดกัญชงและสาบเสือ ซึ่งสารสกัดกัญชงมีส่วนช่วยสมานแผล โดยลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้น fibroblast และ collagen จึงช่วยให้ปิดแผลเร็วขึ้น และยังมีฤทธิ์ลดปวดได้ด้วย ส่วนสาบเสือเองนั้นมีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดหดตัว ต้านการรวมตัวของเกร็ดเลือด เร่งกระบวนการแข็งตัวของเลือด ต้านการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่ผิวหนังต้านการอักเสบ และสมานแผล มีการวิจัยก่อนหน้าพบว่าสารสกัดใบสาบเสือสามารถหยุดเลือดได้เร็วกว่ากลุ่มควบคุมในสัตว์ทดลอง โดยทำให้เวลาการแข็งตัวของเลือดสั้นลง
โดยทางทีมมีแผนเริ่มจากการพัฒนาสารสกัดที่มีความคงสภาพ นำมาพัฒนาเป็นครีมปราศจากเชื้อ ทดสอบฤทธิ์ในเซลล์หรือสัตว์ทดลอง และทดสอบประสิทธิผลในคนเป็นขั้นตอนเป็นขั้นตอนสุดท้าย ส่วนผลิตภัณฑ์อีกกลุ่มที่ทางทีมจะดำเนินต่อเพื่อนำมาใช้ประโยชน์คือ แคปซูลจากสารสกัดกระท่อม เพื่อบรรเทาอาการปวดที่มีความรุนแรงระดับปานกลาง ซึ่งที่ผ่านมาสถาบันวิจัยได้มีการศึกษาคุณภาพของใบกระท่อม และนำมาทำเป็นสารสกัดหลายรูปแบบ รวมถึงการศึกษาความเป็นพิษจนได้ขนาดที่นำมาใช้ในคนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งทางสถาบันวิจัยและอภัยภูเบศร ร่วมกับเครือข่ายจะดำเนินการร่วมกันในการพัฒนาแคปซูลจากสารสกัดที่มีควาทคงสภาพ และดูดซึมผ่านทางเดินาหารเพื่อให้ออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้น และจะนำไปขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน
การประชุมครั้งนี้ยังมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม ได้แก่ พลตรี นพ.โชคชัย ขวัญพิชิต รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก ภญ.วรสุดา ยูงทอง ผู้อำนวยการกองยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ภญ.วรรณนิษา เถียรทวี ผู้เชี่ยวชาญกองนโยบายแห่งชาติด้านยา
ดร.ภก.วีระชัย พิพัฒน์รัตนเสรี ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา และรศ.ดร.จินดาพร ภูริพัฒนวงศ์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภก.กิตติ สุคันโธ สถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ และดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เข้าร่วมวางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบสู่การนำไปใช้ประโยชน์ โดยมุ่งเป้าใช้วัตถุดิบในประเทศ 100% ยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ และทำให้มียาพร้อมใช้ในภาวะฉุกเฉินเพื่อเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองของประเทศ โดยจะมีการติดตามความก้าวหน้าเป็นระยะ เพื่อผลักดันให้สมุนไพรไทยก้าวสู่การเป็นกำลังสำคัญในการแพทย์ฉุกเฉินในอนาคต
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » กทม-สาธารณสุข
ข่าวในหมวดกทม-สาธารณสุข ![]()
สพฉ. จับมือภาคเอกชน ประกาศผล 1669 Young Content Creator ครั้งที่ 1 “ประสบการณ์ 1669 บ้านฉัน” 14:14 น.
- กปน. เปิดแผนวิสาหกิจ “ประปาคุณภาพ เพื่อชีวิตที่ดี”มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมและความยั่งยืน 07:57 น.
- รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ จัดกิจกรรม “ธารน้ำใจ...ถวายน้ำดื่มให้วัดใกล้ โรงพยาบาลฯ” 17:52 น.
- APCO ชี้ “ ร่างกายที่เสื่อมถอย และ พันธุกรรม ” เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของมะเร็ง แนะแนวทางชะลอการเกิดมะเร็งในผู้สูงอายุ 16:02 น.
- รพ.เจริญกรุงประชารักษ์คว้าประกาศนียบัตร 3P Safety Membership 10:43 น.