วันที่ 25 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม เกิดเหตุสลดซ้ำแล้วซ้ำอีก ปัญหาทาสยาบ้าป่วยจิตภัยสังคม เกิดอาการคลั่งทำร้ายผู้คน และคนในครอบครัว โดยก่อนนี้ประมาณสามเดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์  จ.นครพนม เคยเกิดเหตุสลดหนุ่มเสพยาบ้า คลั่งทำร้ายเด็กเสียชีวิต

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น. ได้เกิดซ้ำอีก พื้นที่บ้านหนองแสง หมู่ 5 ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ. นครพนม หลานชายคือ นายจุลศักดิ์ หรือครีม อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวช เนื่องจากเคยมีประวัติเสพยาบ้ามาก่อน และปัจจุบันหันมาเสพกัญชา เกิดอาการไม่พอใจ หลังถูกยายต่อว่าเรื่องขอเงินไปซื้อบุหรี่ ใช้จอบทุบหัวยายจนเสียชีวิต กลางไร่มันสำปะหลัง หลังบ้านพักเลขที่ 17 หมู่ 5 บ้านหนองแสง ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ. นครพนม ผู้เสียชีวิตคือนางใย อายุ 59 ปี ถูกตีที่ขมับขวาเป็นแผลฉกรรจ์

ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.คุรุพงษ์ แก้วสะอาด ผกก.สภ.โพนสวรรค์ พร้อมด้วย พ.ต.ท. อิทธิศักดิ์ ชมศรีหาราชพร สารวัตรสอบสวน รวมถึง พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับการกองพิสูจน์หลักฐานนครพนม (ผกก.พฐ.ฯ) และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ชันสูตรเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบจอบเหล็กด้ามไม้ ตรงปลายมีคราบเลือดและเส้นผมติดอยู่ ใกล้กันพบจอบเหล็กด้ามไม้เช่นกัน และรองเท้าแตะซึ่งเป็นของผู้ตาย 1 คู่ ส่วนผู้ก่อเหตุนายครีมหลานชายวัย  20 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมไปสอบสวนดำเนินคดี ฐานความผิดฆ่าบุพการี

จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายครีมผู้ต้องหา ยังให้การวกวน และไม่ยอมรับสารภาพว่าเป็นฆาตกร อ้างมาเลี้ยงควายและไม่รู้ว่ายายถูกใครฆ่าตาย จากการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารกัญชา แต่ไม่มีสารเสพติดประเภทยาบ้า ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนโดยละเอียดประกอบสำนวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมคุมตัวเสนอขอฝากขังที่ศาล จ.นครพนม พร้อมคัดค้านการประกันตัว แต่ตลอดทั้งวันที่ถูกควบคุมในห้องขังโรงพัก ไม่มีญาติโผล่มาเยี่ยมผู้ต้องหาแม้แต่คนเดียว

สอบถาม ลูกชายผู้ตาย อายุ 35 ปี เปิดเผยว่า แม่ของตนมีศักดิ์เป็นยายของผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่ามีพฤติกรรมติดยาเสพติด มาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น และถูกให้ออกเพราะมั่วสุมยาเสพติด เมื่อสองสามปีที่ผ่านมานายครีมเสพยาบ้าหนักมาก จนกระทั่งป่วยจิต ต้องกินยาจิตเวชประจำ และไม่ยอมทำงานชอบขอเงินยายครั้งละ 10-20 บาท โดยในแต่ละวันขอมากกว่า 5 ครั้งขึ้นไป ถ้ายายไม่มีให้จะเกิดอาการไม่พอใจ และทำร้ายด้วยการทุบตีประจำ

ล่าสุดวันเดียวกันเวลาประมาณ 13.50 น. นางใยแม่ของตนได้โทรไปบอกพี่สาวคนโต และเป็นแม่ของนายครีม ว่าให้มารับหลานไปดูแล เนื่องจากว่ารับไม่ไหว เกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าว ขณะที่โทรนั้นนายครีมก็อาจได้ยิน เพราะนอนอยู่ในบ้าน หลังวางสายตนก็ไปรับเงินค่าจ้างกรีดยาง ส่วนแม่ก็ถือเสียมเข้าไปปลูกมันสำปะหลังที่อยู่ใกล้บ้านประมาณ 150 เมตร

เบื้องต้นสันนิษฐานว่านายครีม อาจได้ยินคุยกันเรื่องให้นางจุฬากรมารับตัวไปเลี้ยงดู จึงคว้าจอบเดินไปตามไปในไร่ ขณะที่นางใยก้มหน้าขุดหลุมปลูกมันสำปะหลัง โดยใช้ตรงปลายด้ามจอบฟาดเข้าที่ขมับขวา จนนางใยฟุบหน้าแน่นิ่ง มีเลือดไหลอาบเต็มใบหน้า นายเด่นศักดิ์กลับจากไปรับเงิน เห็นฝูงควายกระจัดกระจายอยู่เต็มไร่ จึงเดินไปดูพบร่างแม่จมกองเลือดในร่องมันฯ  จึงรีบนำตัวส่ง รพ.โพนสวรรค์ แต่นางใยได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ส่วนนายครีมก็เดินวนเวียนอยู่บริเวณนั้น จึงถูกควบคุมตัวรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ มารับตัวไปสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้นายเด่นศักดิ์ผู้มีศักดิ์เป็นน้าชาย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทางด้านสามีของผู้ตาย เปิดเผยว่าหลานชายเป็นลูกคนที่สองของลูกสาวคนโตของตน ได้มาฝากเลี้ยงตั้งแต่อายุสองเดือน จึงรักเสมือนลูกคนหนึ่ง ดูแลชุบเลี้ยงตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย สุดท้ายไปเสพยาบ้าขณะยังเรียนอยู่ชั้นประถม และขึ้นมัธยมต้นก็เริ่มออกอาการสติฟั่นเฟือน  จึงต้องออกโรงเรียนกลางคันระดับชั้น ม.2  จนกระทั่งป่วยจิต เคยนำไปบำบัดฟื้นฟูหลายครั้ง และไม่ยอมกินยา ปกติอยู่บ้านกันสี่คน พฤติกรรมของหลานชายระยะหลัง ไม่นอนกลางคืนจะเดินวนรอบบ้านทั้งคืน สูบบุหรี่พ่นควันยิ่งกว่าปล่องโรงสี เชื่อว่านางใย กำลังนั่งก้มหน้าขุดหลุมมันสำปะหลัง หลานชายมีการเข้าไปพูดคุยขอเงิน และไม่พอใจจึงเกิดอาการคลั่ง ยกปลายด้ามจอบทุบหัวทำร้ายยายจนเสียชีวิต ถามว่าความรู้สึกตอนนี้เสียใจมาก แต่พร้อมให้อภัยหลาน ถึงจะทำผิดก็ยังรักหลานชายคนนี้เสมอ เพราะเลี้ยงมาแต่ยังแบเบาะ ส่วนการดำเนินคดีขอให้เป็นไปตามกฎหมาย