เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 1 มิ.ย.68 พ.ต.ต. อุทิศ เหล่าหา พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม รับแจ้งมีเหตุทำร้ายกันทำให้มีผู้เสียชีวิต ที่ห้องเช่า ม.5 ต.ดอนกระเบื้อง อ.โพธาราม จึงรายงานให้ พ.ต.อ. ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ ผกก.สภ.โพธาราม รับทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบร่วมกับ พ.ต.ท.บุญส่ง พันธ์จินดา รอง ผกก.ป.สภ.โพธาราม พ.ต.ต.สุรินทร์ สุกหอม สวป.สภ.โพธาราม สายตรวจรถยนต์ 20 พร้อมสายตรวจรถจยย. แพทย์เวร โรงพยาบาลโพธาราม เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี และกู้ภัยสว่างราชบุรี ที่เกิดเหตุในห้องเช่าบริเวณหน้าห้องน้ำพบศพเป็นชาย 1 รายนอนจมกองเลือดไหลนองเต็มพื้น ทราบชื่อผู้ตายคือนายโซเต็ง อายุ28ปี สัญชาติ เมียนมา มีบาดแผลที่บริเวณศรีษะ ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนาย อาชิโกอายุ37ปี สัญชาติกระเหรี่ยง หลังเกิดเหตุถูกเพื่อนคนงานช่วยกันจับตัวไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวน ที่ สภ.โพธาราม  ในที่เกิดเหตุพบอาวุธไม้ 1 ท่อนลักษณะไม้หักเป็น2ท่อนมีคราบเลือดติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้นยังพบคราบเลือดที่กระเซ็นไปติดที่พนังปูน 
    
จากการสอบสวนเบื้องต้นทางหัวหน้าคุมงานเป็นคนไทย (ขอสงวนชื่อและนามสกุล)(เสื้อสีดำ)เล่าเหตุการณ์ว่า ผู้ตายเป็นชาวเมียนมา และผู้ก่อเหตุเป็นชาวกระเหรี่ยง ซึ่งตนพึ่งไปรับคนก่อเหตุมาทำงานเมื่อวาน และให้มาพักอาศัยอยู่ในบ้านเช่าดังกล่าว ตกตอนบ่ายได้ออกไปซื้ออาหารมาทำกินกัน ประมาณ3-4คนพร้อมนั่งดื่มกินตั้งแต่บ่าย จนถึง3ทุ่ม ฝ่ายคนตายและคนก่อเหตุได้มีปากเสียงกัน ต่างฝ่ายคว้าขวดเหล้าจะตีกันจนเพื่อนๆเข้าห้าม ตนเห็นว่าดึกแล้วจึงให้เลิกกินและแยกย้ายกันไปนอนตนก็เข้าห้องนอน จนกระทั้งตอนเกิดเหตุเพื่อนผู้ตายวิ่งไปตามผมที่ห้องบอกว่าตีกันตายแล้ว ตนจึงรับมาดูก็พบว่าผู้ตายนอนจมกองเลิอด ส่วนผู้ก่อเหตุยืนถือไม้ซึ่งหักเป็น 2 ท่อนพร้อมพูดจาโวยวายวกวน จึงช่วยกันจับตัวไว้ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาดังกล่าว ส่วนคนที่ถ่ายคลิปไว้คือหม่อนวินเพื่อนผู้ตาย ถ่ายตอนหลังเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าหลังจากตนเข้านอน ทั้งคู่น่าจะยังนั่งดื่มกินกันต่อและมีปากเสียงกัน ทางด้านผู้ตายจึงเดินไปนอนที่พื้นบ้านใกล้ห้องน้ำ ส่วนคนก่อเหตุไม่ยอมเลิกเดินตามเข้าไปพร้อมคว้าไม้ยาวกว่า1เมตร กระหน่ำตีผู้ตายจนตายจมกองเลือดดังกล่าว
  
ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับนายอาชิโก ฆ่าคนตายโดยเจตนา นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนศพผู้เสียชีวิตมอบให้ทางกู้ภัยสว่างราชบุรีนำส่งผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป