การศึกษา
นักวิจัย สกสว. พัฒนาสูตรสำเร็จจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ควบคุมโรคใบจุด
วันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 15.01 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

นักวิจัย สกสว. พัฒนาสูตรสำเร็จจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ควบคุมโรคใบจุด
โรคใบจุดของผักสลัดในระบบไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics) มีสาเหตุมาจากเชื้อรา Curvularia areia และ Corynespora cassiicola เป็นปัญหาสำคัญในการปลูกผักสลัด เนื่องจากส่งผลให้ผลผลิต และคุณภาพของผักสลัดลดลง โดยเฉพาะในฤดูฝนซึ่งมีการแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว ซึ่งเกษตรกรส่วนจะปลูกผักสลัดเพื่อการค้าในรูปแบบนี้
นางสาวบุรฮานะฮ์ ใบยี นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาการจัดการศัตรูพืช คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า จากการสำรวจโรงเรือน หากเกิดการระบาดของโรคใบจุดในต้นกล้าผักสลัด จะมีอัตราตายถึง 10 0% แต่ถ้าโตกว่านั้นจะก่อให้เกิดความเสียหาย 40-50% โดยที่ผ่านมาเกษตรกรจะใช้เชื้อรา Trichoderma sp. ในรูปแบบเชื้อสด ซึ่งกรมวิชาการเกษตรส่งเสริมให้ใช้เป็นเชื้อปฏิปักษ์ในการควบคุมโรค แต่เนื่องจากการใช้เชื้อสดมีข้อจำกัดหลายอย่าง ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมที่ยุ่งยาก การปนเปื้อนซึ่งจะทำให้เชื้อเกิดการด้อยประสิทธิภาพ และมีอายุการเก็บรักษาที่สั้น
เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้ รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพของเชื้อปฏิปักษ์ในการควบคุมโรคใบจุดของผักสลัด นางสาวบุรฮานะฮ์ ใบยี ได้ศึกษาวิจัย ‘สูตรสำเร็จของจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ในการควบคุมโรคของผักสลัดไฮโดรโปนิกส์สำหรับการค้า’ โดยมี รศ.ดร.อนุรักษ์ สันป่าเป้า เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ภายใต้ทุนโครงการพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (พวอ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)
นางสาวบุรฮานะฮ์ กล่าวว่า ในงานวิจัยมีการศึกษาประสิทธิภาพของเชื้อราไตรโคเดอร์มา (Trichoderma spp.) 6 isolate ก่อนคัดเลือกมา 2 สายพันธุ์ ที่มีประสิทธิภาพและสามารถใช้กลไกการเป็นปฏิปักษ์ในการยับยั้งเชื้อราสาเหตุโรคใบจุดในผักสลัดได้ดีที่สุด คือ Trichoderma asperellum T1 และ Trichoderma spirale T76-1
“เชื้อราไตรโคเดอร์มาทั้ง 2 สายพันธุ์ มีความจำเพาะในการป้องกันโรคใบจุดได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้เชื้อจุลินทรีย์ปฎิปักษ์ชนิดอื่น ๆ ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์ สามารถใช้กลไกการแก่งแย่งแข่งขัน โดยเจริญได้เร็วกว่าเชื้อก่อโรคและเข้าครอบครองพื้นที่บนหน้าอาหารเลี้ยงเชื้อได้เร็วกว่า ทำให้เชื้อก่อโรคถูกจำกัดพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กลไกการทำลายชีวิต โดยการสร้างเอนไซม์ที่สามารถย่อยสลายผนังเซลล์ของเชื้อก่อโรค และสร้างสารระเหยที่มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อรามายับยั้งการเจริญของเชื้อสาเหตุโรคใบจุดทั้ง 2 ชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นกลไกการป้องกันตนเองให้พืชโดยกระตุ้นกิจกรรมของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันตัวเองในต้นผักสลัดทำให้มีความต้านทานต่อการเข้าทำลายของเชื้อสาเหตุโรค ดังนั้นเราจึงเห็นศักยภาพของเชื้อราทั้ง 2 สายพันธุ์ ที่เหมาะสมในการใช้ควบคุมโรคทางใบสำหรับพืชที่ปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์”
แต่ปัญหาที่เห็นจากการลงพื้นที่ทำวิจัย คือ เกษตรกรมีความยุ่งยากในการเตรียมเชื้อสดเพื่อใช้งาน นักวิจัยจึงมีการพัฒนาสูตรสำเร็จของจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ เพื่อสะดวกแก่การใช้งานของเกษตรกร ใช้เทคโนโลยีการทำสูตรสำเร็จจากเชื้อสดในรูปแบบต่างๆ โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก เช่นแป้ง และน้ำมันพืช และนำไปผ่านกระบวนการต่างๆ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะทำในสภาวะปลอดเชื้อ
นางสาวบุรฮานะฮ์ กล่าวว่า “ทีมวิจัยมีการพัฒนาสูตรสำเร็จของจุลินทรีย์ปฏิปักษ์เชื้อราไตรโคเดอร์มาทั้ง 2 ชนิด ทั้งแบบผง แกรนูล แกรนูลแคปซูล และสูตรของเหลวอิมัลชั่น ซึ่งเป็นสูตรที่เหมาะสมที่สุดและมีประสิทธิภาพดีที่สุดในการนำไปใช้ เนื่องจากสปอร์ของเชื้อถูกเก็บอยู่ในรูปแบบของน้ำมัน เมื่อนำไปผสมน้ำใช้เชื้อจะ Active ทำงานได้เลย นอกจากนี้ยังพบว่าสูตรสำเร็จชนิดนี้เมื่อนำไปพ่นในโรงเรือนไฮโดรโปนิกส์ จะไม่ก่อเกิดปัญหาหัวฉีดตัน”
จากการทดลองใช้จริงในโรงเรือนเปรียบเทียบกับเชื้อสดแล้ว พบว่าการลดดัชนีความรุนแรงของโรคมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน แต่จุลินทรีย์ปฏิปักษ์ในรูปแบบสูตรสำเร็จจะลดความยุ่งยากในการเตรียมของเกษตรกร รวมถึงระยะเวลาในการเก็บเชื้อให้มีประสิทธิภาพได้ยาวนานถึง 4-6 เดือน เมื่อเก็บไว้ในตู้เย็นอุณหภูมิที่ 10 องศาเซลเซียส ซึ่งการใช้เชื้อสดจะเก็บไว้ได้ไม่เกิน 14 วันหลังจากเตรียมเชื้อ นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย เพียงใช้จุลินทรีย์ปฏิปักษ์สูตรสำเร็จ 30 กรัม หรือ 30 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 1 ลิตร พ่นในโรงเรือนหรือแปลงปลูกเพียงเดือนละ 1 ครั้ง แต่หากโรงเรือนมีการติดเชื้อก็ทำการพ่น 2 ครั้งต่อเดือน ซึ่งถ้าเป็นการใช้เชื้อสดเกษตรกรต้องมีการเตรียมเชื้อในปริมาณที่เยอะมาก จึงเป็นการลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรได้อีกด้วย
นางสาวบุรฮานะฮ์ กล่าวว่า “หากเทียบกับเชื้อปฏิปักษ์สูตรสำเร็จตามท้องตลาด สูตรสำเร็จต้นแบบตัวนี้จะให้ประสิทธิภาพดีกว่า เนื่องจากมีความจำเพาะต่อโรคใบจุดสำหรับการปลูกผักสลัดแบบไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งสูตรสำเร็จนี้ก็สามารถนำไปปรับใช้เพื่อนำไปควบคุมโรคอื่นๆ ได้อีกด้วย โดยปัจจุบันมีการพัฒนาสูตรต้นแบบร่วมกับ บริษัท ไทย แอดวานซ์ อะกรี เทค จำกัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ให้แก่สูตรสำเร็จของเชื้อปฏิปักษ์ เพื่อให้สามารถตอบสนองการใช้งานของเกษตรกรได้อย่างสูงสุด”
งานวิจัยครั้งนี้ นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสร้างองค์ความรู้ใหม่ และโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากการทำเชื้อสูตรสำเร็จของไตรโคเดอร์มายังไม่แพร่หลาย และยังเป็นการค้นพบเชื้อราไตรโคเดอร์ที่มีความจำเพาะในการป้องกันโรคใบจุดของผักสลัดได้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน สามารถลดความเสียหายของผักสลัด เป็นการควบคุมเชื้อโรคแบบชีววิถี ไม่มีผลกระทบต่อร่างกายของผู้บริโภค
Email ข่าวการศึกษา เยาวชน ศิลปวัฒนธรรม saowaporn@hotmail.com และ bat_mamsao@yahoo.com
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การศึกษา
Top 5 ข่าวการศึกษา ![]()
- ‘‘ลิณธิภรณ์’ จับมือ BOI ผนึกเอกชน เปิดตัว “VOC-UP” ปรากฏการณ์ยกระดับอาชีวะไทย เงินลุงทุนกว่า 51,000 ล้าน สร้างงาน 6 ส.ค. 2568
- ‘ธรรมศาสตร์’ กับภารกิจ ปลดแอกบนบ่า ‘เดอะแบก’ ปั้นนวัตกรรมรับมือสังคมสูงวัย 50 อปท. 6 ส.ค. 2568
- CU Innovation & IP Expo 2025จุฬาฯ โชว์ศักยภาพนวัตกรรมยารักษามะเร็งใหม่ 6 ส.ค. 2568
- ค้นอัตลักษณ์วัฒนธรรมอันดามันสู่การสร้างสรรค์ลายผ้า ดันแบรนด์ไทยไปเวทีโลก 6 ส.ค. 2568
- ราชมงคลพระนคร เปิดคอร์สออนไลน์ เตรียมความพร้อมก่อนสอบสมรรถนะวิชาชีพครู ปี 2568 6 ส.ค. 2568
ข่าวในหมวดการศึกษา ![]()
นักวิชาธรรมศาสตร์’ แนะวิธีเช็กสัญญาณเบื้องต้นเสี่ยง ‘ฆ่าตัวตาย’ 15:58 น.
- Thailand LAB INTERNATIONAL 2025 พลิกโฉมห้องแล็บสู่ยุค Net Zero ดันโปรแกรม Carbon Neutrality 15:37 น.
- สวทช. เปิดตัว “ไผ่ตัดอายุ” นวัตกรรมยกระดับการปลูกไผ่ไทย 06:59 น.
- “นฤมล”นำ สพฐ.-สอศ.ลงพื้นที่ จ.น่าน ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาเสียหายจากอุทกภัย ลุย ให้กำลังใจครู นักเรียน เผย เตรียมของบกลางเร่งฟื้นฟูพื้นที่ 19:29 น.
- ราชมงคลสุวรรณภูมิ ถ่ายทอดองค์ความรู้ช่างเครื่องกล เสริมทักษะเกษตรกรชุมชนขุนศรี 17:32 น.