พลังเกษตรศาสตร์สู่การเป็นบัณฑิตที่ภาคภูมิใจเปิดใจบัณฑิตเกียรตินิยม อันดับ 1 ของ มก.

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยที่ดำเนินมาจนประสบความสำเร็จเป็นบัณฑิตใหม่ พบพานเรื่องราวที่หลากหลายรสชาติและฝากบทเรียนอันทรงคุณค่าต่าง ๆ มากมาย จากการพูดคุยกับบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 ของ มก. จำนวน 5 คน และบัณฑิตเกียรตินิยม อันดับ 2 นักกีฬากรีฑาและ Influencer ด้านกีฬาอีก 1 คน รวม 6 คน 

ถ้อยคำที่กลั่นกรองจากประสบการณ์การเรียน 4 ปี เต็มอิ่มกับความประทับใจในสถานศึกษาแห่งนี้ รวมถึงความสุข และสิ่งที่อยากฝากถึงรุ่นน้องในด้านการเรียน การใช้ชีวิต และการฟันฝ่าอุปสรรคจนสำเร็จ ทั้งหมดนี้สื่อแสดงถึงพลังเกษตรศาสตร์จากบัณฑิตใหม่ผู้ทุ่มเทและพร้อมสร้างสรรค์สังคมในโลกปัจจุบัน ขอเชิญทุกท่านร่วมชื่นชมและซึมซับกับพลังจากบัณฑิตทั้ง 6 คน ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของบัณฑิตใหม่ ปีการศึกษา 2566 ของ มก. ทั้งหมด 15,238 คน ที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษานี้ ประกอบด้วยดุษฎีบัณฑิต 177 คน มหาบัณฑิต 1,528 คน บัณฑิต 13,533 คน บัณฑิตได้รับเกียรตินิยมอันดับ 1 จำนวน 1,743 คน เกียรตินิยมอันดับ 2 จำนวน 2,097 คน

นางสาวณิชกานต์ กรีธาธร (เนย) บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 (4.00)  สูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของ มก. คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาพฤกษศาสตร์   ปัจจุบันเป็นนิสิตทุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) กำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท ปีที่ 1 ภาควิชาพันธุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเพิ่งได้รับทุน พสวท. ระดับปริญญาโท-เอก ศึกษาต่างประเทศ สาขาชีววิทยา จึงอยู่ในช่วงเตรียมตัวเพื่อสมัครเรียนมหาวิทยาลัยต่างประเทศ

 “ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่เรียนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก ๆ ค่ะ เพราะสังเกตได้ว่ามีการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้ชีวิตส่วนตัว การเรียน การทำงาน หรือการทำกิจกรรม ทักษะหลายอย่างที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งได้รับการพัฒนาในช่วงเป็นนิสิตค่ะ นอกจากนี้ระหว่างเรียนก็ได้เจอกับสิ่งที่น่าประทับใจหลายอย่าง   สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดและอยากเล่าให้ทุกคนฟังคือ การได้รับความรัก การดูแล และการเอาใจใส่จากคณาจารย์ บุคลากร และเพื่อน ๆ ในมหาวิทยาลัยตลอดเวลา เวลาเจออุปสรรคอะไรจึงไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวหรือต้องเผชิญปัญหาคนเดียว เวลาที่อยากทำอะไรก็ได้รับการสนับสนุน กำลังใจและคำแนะนำ เวลาที่ประสบความสำเร็จจะได้รับความยินดีและคำชื่นชมเสมอ รวมถึงเวลาทำผิดพลาดก็ได้รับการตักเตือนด้วยความหวังดีและความห่วงใย เหมือนกับว่าทุก ๆ คนเป็นเบาะที่คอยรองรับความผิดพลาดที่เกิดจากความไม่ตั้งใจอยู่ตลอดเลยค่ะ  ส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนูรวมถึงเพื่อน ๆ กล้าคิดกล้าทำมากขึ้น และพร้อมแก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ

จาก 4 ปีในรั้วเกษตรศาสตร์ เราเชื่อว่าทุกคนมีเป้าหมายในชีวิตและแนวทางการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน บางคนชอบเรียนมาก ๆ อยากได้ผลการเรียนดี บางคนชอบทำกิจกรรมมาก ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ บางคนแค่อยากเรียนในสิ่งที่ชอบพร้อม ๆ กับทำกิจกรรมนิดหน่อย เพราะฉะนั้นการรู้จักตัวเองว่าอยากทำอะไรหรืออะไรที่ทำให้เรามีความสุขถือเป็นการประสบความสำเร็จขั้นแรกแล้ว ความสำเร็จขั้นต่อมาคือลงมือทำด้วยความมุ่งมั่นและความตั้งใจ และความสำเร็จขั้นสุดท้ายคือ ยอมรับผลลัพธ์ที่ตามมาค่ะ ไม่ว่าผลออกมาเป็นแบบไหน สมหวังหรือผิดหวัง อยากให้เชื่อว่าตัวเราตอนนั้นทำได้ดีที่สุดเก่งมาก ๆ แล้ว และที่สำคัญมาก ๆ ก็คือ อย่าลืมให้กำลังใจและคำชมกับตัวเองอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ”  

นางสาวจุฑามณี นิมิต บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 (3.99) สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของ มก.  คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการสอนคณิตศาสตร์  รับราชการตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร เล่าว่า   “ความประทับใจ ครอบครัว Math ED KU ค่ะ ครอบครัวบ้านสีม่วง รั้วสีเขียวมอบประสบการณ์ที่ดี บทเรียนที่หลากหลาย ทั้งความรู้วิชาการที่แน่น แนวทางการทำงาน การดำเนินชีวิต เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีในฐานะการเป็นครู แม้ในยามที่พบเจอปัญหาการเรียนหรือเรื่องอื่น ๆ อาจารย์ทำให้รู้สึกปลอดภัยและกล้าปรึกษาจนสามารถผ่านปัญหานั้นไปได้ เป็นความทรงจำที่เมื่อนึกถึงยามใด ก็อบอุ่นหัวใจทุกทีค่ะ

สิ่งที่อยากฝากถึงรุ่นน้องคือ ชีวิตการเป็นนิสิตระดับปริญญาตรีมีไม่มากนัก มีทั้งช่วงที่มีความสุขและช่วงที่อ่อนแอเกินกว่ารับไหว พี่อยากบอกน้องว่า ขอให้เชื่อมั่นในตนเองไว้ ไม่หยุดพัฒนาหรือปรับปรุงสิ่งที่บกพร่อง ขวนขวายหรือหาแนวทางแก้ไข ไม่ใช่แค่เรื่องเรียนหรือการทำงานแต่รวมถึงการใช้ชีวิต  หน้าที่การเป็นนิสิตคือ รับผิดชอบต่อการเรียนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ต้องรู้จักพัฒนาตนเอง ขวนขวาย ลองผิดลองถูกเสมอ รู้สึกท้าทายที่มีความสุขและสนุกทุกครั้งที่ได้ทำ พยายามเก็บเกี่ยวทุกประสบการณ์ที่เข้ามา เปิดรับทั้งสิ่งที่ตนถนัดและสิ่งที่ท้าทายเพื่อให้มีโอกาสฝึกฝนทักษะใหม่ให้ตนเอง รักษาสมดุลทุกด้านของชีวิตให้คงที่ ไม่มีอะไรเป็นผลดีหากเกินความพอดี ไม่ทำอะไรที่เกินตนจนเกินไป  คนที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนจะเป็นผู้ได้รับคำแนะนำดี ๆ จากผู้อื่น ทุกความสำเร็จเกิดขึ้นจากการพยายาม ทั้งหมดนี้ทำให้เราเป็นคนที่สมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะไม่ 100% แต่เราจะมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ยิ่งกว่าเราในปัจจุบัน สู้ ๆ นะคะ พี่รอติดตามความสำเร็จ ความเจริญงอกงามของพวกเรา  พลังแห่งเกษตรศาสตร์ ค่ะ”

นายชยพล สาสนรักกิจ เกียรตินิยมอันดับ 1 (3.98) สูงสุดเป็นอันดับที่ 3 ของ มก. คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์  ปัจจุบันศึกษาต่อระดับปริญญาโท วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   มีความประทับใจการเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 4 ปี รู้สึกภูมิใจมากที่ได้ชื่อว่าเป็นนิสิตของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับ ที่สำคัญไม่ได้สอนให้เราเป็นนิสิตที่มีความรู้ด้านวิชาการอย่างเดียว  ยังมีวิชาเรียนนอกเหนือที่คณะ เป็นการเปิดมุมมองให้กว้างมากขึ้น ที่สำคัญปลูกฝังให้เป็นคนที่สมบูรณ์ เหมือนอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย คือ สำนึกดี (Integrity)  มุ่งมั่น (Determination) สร้างสรรค์ (Knowledge creation) และ สามัคคี (Unity) 

"มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มุ่งสร้างศาสตร์แห่งแผ่นดิน เพื่อความกินดีอยู่ดีของชาติ" (Kasetsart University aims to create knowledges of the land for the well-being of nation) เพราะนึกทุกครั้งทำให้มีจิตใจฮึกเหิมว่า เราจะต้องพยายามใช้ความรู้ความสามารถของเราให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติให้ได้ คำว่า ศาสตร์แห่งแผ่นดินทำให้รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงเป็นตัวอย่างของการเสียสละเพื่อประชาชน ทำให้เราอยากเสียสละเพื่อส่วนรวมเหมือนพระองค์

อยากบอกน้อง ๆ ว่า ชีวิตไม่ใช่แค่ความรู้ด้านวิชาการ ในโลกนี้มีความรู้มากมาย ลองเปิดใจเรียนรู้หลาย ๆ ด้าน จงสนุกกับการเรียนรู้  หากจะเสียเวลาทำสิ่งใดแล้วก็ทำใจให้รู้สึกสนุก  ทำให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด เราทำด้วยความสนุกกระตือรือร้น ดีกว่าทำด้วยความเบื่อด้วยความรู้สึกถูกบังคับให้ทำ และน้อง ๆ อย่าลืมนำอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยไปใช้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อความภูมิใจของตัวเราและเพื่อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อันเป็นที่รักของพวกเรา”

 นางสาววรรณภา อุ่นใจ บัณฑิตเกียรตินิยม (3.95) สูงสุดเป็นอันดับที่ 5 ของ มก.  คณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ สาขาวิชาการจัดการเรียนรู้ วิชาเอกภาษาอังกฤษศึกษา  ปัจจุบันทำงานเป็น Brand Communication Officer ที่บริษัท Financial Technology แห่งหนึ่ง ควบคู่กับการเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาจนถึงวัยทำงาน

“ช่วงแรกในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นช่วง Covid-19 ระบาดทำให้รูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์ รู้สึกเสียดายที่พลาดโอกาสพบปะหรือทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ ถึงอย่างไรความสัมพันธ์ที่เกิดระหว่างช่วง Covid-19 ทำให้ได้รู้จักกันได้เรียนรู้และทำงานร่วมกัน เมื่อมาเจอกันจึงใช้เวลาปรับตัวไม่นาน  เป็นคนชอบหาโอกาสให้ตัวเองทำสิ่งต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยไม่ว่าเป็นรูปแบบไหน ทำให้ได้เจอเพื่อนต่างคณะต่างมหาวิทยาลัย เบื้องหลังโอกาสเหล่านี้คือ อาจารย์ทุกท่านให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทั้งทางกาย (Physically) ทางจิตใจ (Mentally) และทางอารมณ์ (Emotionally) ขอขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ร่วมผลักดันจนสำเร็จ”

ฝากถึงรุ่นน้องว่า  4 ปีในมหาวิทยาลัยช่วงที่เราเริ่มปรับตัวได้แล้ว ทุกอย่างผ่านไปไวมาก ๆ โอกาสมีให้เราทุกที่ไม่ว่าจะอยากลองทำอะไร อยากเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองตรงไหน อย่าปิดกั้นตัวเองเพียงเพราะคำว่าไม่กล้าทำ หรือไม่เคยทำ หรือเพราะต้องทำสิ่งนั้นคนเดียว ลองมองเป็นความท้าทาย (milestone) ที่เมื่อทำแล้วจะไม่รู้สึกเสียใจในอนาคตว่าไม่ได้ทำ   สิ่งที่อยากฝากไว้คือ จังหวะชีวิตของเราไม่เท่ากัน ไม่รู้ว่าโอกาสที่รอจะมาตอนไหน การเตรียมตัวเองให้พร้อมไว้ย่อมดีกว่าเมื่อโอกาสมาถึงแล้วจะได้ไม่ปล่อยผ่านเพียงเพราะว่าเราไม่พร้อม ทุกความท้าทายและการลงมือทำไม่ได้ตอบแทนด้วยความสำเร็จ แต่ผลลัพธ์ที่ได้แน่นอนคือ ตัวเราที่ได้เรียนรู้และก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ Embrace and enjoy everything to the fullest!

นายปุณยวัทน์ ฉวีพจน์กำจร บัณฑิตเกียรตินิยม (3.95) สูงสุดเป็นอันดับที่ 5 ของ มก. คณะสหวิทยาการจัดการและเทคโนโลยี สาขาวิชาการจัดการโรงแรมและท่องเที่ยว ปัจจุบันกำลังสนใจศึกษาต่อที่ Ritsumeikan Asia Pacific University (APU) ด้าน College of Sustainability and Tourism (ST) และพัฒนาทักษะการอบขนมสำหรับหารายได้เสริมหรือสานต่อโครงการในอนาคต

ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ผมย้ายออกมาอาศัยในสังคมอื่นในสถานที่ที่แปลกตา มีเพื่อนที่หลากหลายและเพื่อนที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตใกล้เคียงกัน ทุกอย่างล้วนแปลกใหม่สำหรับผม เหตุการณ์ไม่ว่าดีหรือร้ายแต่สุดท้ายก็ผ่านมาด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ และอาจารย์ของผม พวกเราให้ความช่วยเหลือกันในยามที่ต้องการ ให้คำปรึกษาและใส่ใจซึ่งกันและกันในสังคมเล็ก ๆ นี้

สิ่งที่อยากฝากรถึงรุ่นน้องว่า  บนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี 100% การแลกเปลี่ยนเป็นกฎง่าย ๆ  ความพยายามก็เช่นกัน ถ้าเราต้องการสิ่งใดควรพยายามให้ถึงที่สุด อย่ายอมแพ้ แม้จะเสียน้ำตาบ้าง แต่ผลที่ได้ย่อมคุ้มค่า และมันไม่มีอะไรเสียหายถ้าจะขอความช่วยเหลือจากใครสักคน ไม่แน่เราอาจได้ผลเกินกว่าที่คาดไว้

นางสาวธีมา ตงศิริ  (ซี) บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 2  คณะมนุษยศาสตร์  สาขาวิชาภาษาจีนธุรกิจ  นักกีฬากรีฑา และ Influencer ด้านกีฬา ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยโค้ช ทีมวิ่งชื่อ Kids Go Tri มีนักกีฬาตั้งแต่วัยเรียนจนถึงวัยทำงาน ประมาณ 150 คน แต่ละคนมีเป้าหมายการแข่งขันแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นมินิมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน หรือ มาราธอน โดยทีมออกโปรแกรมสำหรับแต่ละบุคคลเพื่อให้การฝึกซ้อมมีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกงาน คือ Influencer ด้านกีฬา ซึ่งเป็นงานที่ภูมิใจได้นำสิ่งที่รัก คือการออกกำลังกายมาต่อยอดทำเป็นอาชีพได้

“ความประทับใจรู้สึกเหมือนที่นี่เป็นสโมสรที่ครบวงจร ซีอยู่มหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลย เช้าเข้าเรียนพอถึงเที่ยง ก็เดินไปทานอาหารที่บาร์ใหม่กับเพื่อน ๆ บ่าย ๆ พักผ่อนที่ห้องสมุดหรือที่ชมรมของตัวเอง ตกเย็นเข้ายิมหรือจะวิ่งที่สนามก็ได้ ซีมีความสุขมาก ๆ ในเวลา 4 ปี ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แห่งนี้

ฝากถึงรุ่นน้องว่า   ในช่วงเวลาหนึ่งเราอาจมีหลายบทบาทหน้าที่ เช่น ขณะซีเป็นนิสิต ซีเป็นนักกีฬา เป็น Influencer เป็นเหรัญญิกชมรม และอื่น ๆ ก็เตือนตัวเองอยู่เสมอให้เรียงลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องทำ และตั้งใจทำสิ่งนั้นให้เต็มที่ก่อน อย่ากังวลอนาคตที่ยังมาไม่ถึงมากจนเกินไป”

                   ส่งข่าวได้ที่  email : saowaporn12345@gmail.com   และ  bat_mamsao@yahoo.com